ตำรวจสภาสหรัฐเสียชีวิต หลังคนร้ายซิ่งเก่งชนด่าน

Loading

    ตำรวจประจำรัฐสภา ในกรุงวอชิงตันของสหรัฐ เสียชีวิตหลังคนร้ายขับรถพุ่งชนจุดตรวจ แล้วลงมาใช้มีดแทงเจ้าหน้าที่ ก่อนที่ผู้ก่อเหตุถูกวิสามัญในที่เกิดเหตุ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ว่าสำนักงานตำรวจรัฐสภาสหรัฐรายงานความคืบหน้า จากเหตุการณ์คนร้ายขับรถยนต์พุ่งเข้าชนเครื่องกีดขวางของหน้าที่ ซึ่งตั้งเป็นแนวกั้นบริเวณอาคารรัฐสภา ในกรุงวอชิงตัน เมื่อช่วงบ่ายของวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากนั้น ผู้ก่อเหตุลงจากรถแล้วใช้มีดแทงเจ้าหน้าที่ “อย่างน้อย 1 นาย” นั้น เจ้าหน้าที่นายหนึ่งเสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาล คือ เจ้าหน้าที่วิลเลียม อีแวนส์ ยังไม่มีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับอายุ แต่ระบุว่า ปฏิบัติหน้าที่ตำรวจประจำรัฐสภามานาน 18 ปี ขณะที่ตำรวจอีกนายหนึ่งยังคงต้องพักรักษาตัว   Statement on the Loss of USCP Colleague Officer William "Billy" Evans: https://t.co/JMAEbTcbAp pic.twitter.com/DPvkAv5ptO — U.S. Capitol Police (@CapitolPolice) April 2, 2021 Large…

ไอทีแอบเข้าไปลบบัญชี Microsoft Office 365 ของลูกค้าเกือบหมด แค้นใจถูกตำหนิจนโดนไล่ออก

Loading

  เป็นเรื่องที่น่าสนใจอีกเคสหนึ่งในประเทศสหรัฐฯหลังเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมไอทีรายหนึ่งที่ลอบเข้าไปลบบัญชี Microsoft Office 365 จนเกือบหมด เหตุแค้นไม่พอใจเพราะลูกค้าฟ้องบริษัทจนถูกไล่ออก เรื่องมีอยู่ว่า Deepanshu Kher ทำงานเป็น IT Consultant ในบริษัทที่ปรึกษาแห่งหนึ่ง ซึ่งมอบหมายให้เขาไปช่วยลูกค้าแห่งหนึ่งใน Carlbad (แคลิฟอเนีย) ย้ายระบบไปยังบริการ Microsoft Office 365 ในมกราคมปี 2018 ต่อมาอาจมีปัญหาบางอย่างทำให้ลูกค้าไม่พอใจและแจ้งต่อบริษัทต้นสังกัด ทำให้ตัวเขาถูกให้ออกในเดือนพฤษภาคม 2018 จน Kher ต้องแพ็กกระเป๋าบินกลับบ้านที่อินเดียพร้อมกับความคับแค้นใจอย่างยิ่ง ต่อมาในวันที่ 8 สิงหาคมปี 2018 นั้นเอง เขาได้ตัดสินใจล้างแค้นลูกค้าด้วยการแฮ็กเข้าไปลบบัญชี Microsoft Office 365 จำนวน 1,200 จากทั้งหมด 1,500 บัญชี บริษัทถึงกับต้องหยุดชะงักการดำเนินงานทันทีกว่า 2 วัน แถมยังไม่สามารถแจ้งลูกค้าหรือผู้ติดต่อได้ด้วยเพราะระบบอันตรธานหายไปทั้ง อีเมล รายชื่อติดต่อ ปฏิทินนัดต่างๆ วีดีโอ เอกสาร และข้อมูลใน Teams ซึ่งกว่าบริษัทจัดการแก้ไขปัญหาได้เสร็จก็กินเวลาไปกว่า…

เผยรายละเอียดมือปืนคลั่ง กราดยิง 10 ศพในซุปเปอร์มาร์เก็ตโคโลราโด

Loading

  หลังก่อเหตุกราดยิงสะเทือนขวัญชาวอเมริกัน มือปืนวัย 21 ปี ได้ยอมมอบตัวกับตำรวจ ต่อมามีการสืบสวนพบความเชื่อมโยงกับ แนวคิดรุนแรงต่อต้าน “การเหยียดชาวมุสลิม” และพบว่าอาจจะไม่มีแรงจูงใจทางการเมือง เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ตำรวจสหรัฐฯ เปิดเผยว่า นายอาห์หมัด อัล อัลลีวี อลิซซา วัย 21 ปี ชาวอเมริกันเชื้อสายซีเรีย เป็นผู้ก่อเหตุกราดยิงที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต “คิง ซูเปอร์ส” ในเมืองโบลเดอร์ รัฐโคโลราโด เมื่อบ่ายวันจันทร์ 22 มี.ค. ตามเวลาในสหรัฐฯ ล่าสุดเขาโดนตั้งข้อหา 10 ข้อหา ฐานฆ่าผู้อื่นโดยมีการวางแผนไตร่ตรองไว้ก่อน และพยายามฆ่า โดยเบื้องต้นตำรวจเชื่อว่าเขาลงมือก่อเหตุเพียงลำพัง และยังไม่ทราบมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้     ลำดับเหตุการณ์นองเลือด   เมื่อเวลา 14.40 นาฬิกา นายอลิซซา ใช้อาวุธปืนพก “Ruger AR-556” ที่เพิ่งซื้อมาเมื่อวันที่ 16 มี.ค. หรือประมาณ 1…

‘ไบเดน’ เรียกร้องผลักดันมาตรการควบคุมปืน หลังเหตุยิงกราดโคโลราโด

Loading

    ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เรียกร้องคองเกรส ผลักดันมาตรการควบคุมปืน หลังเหตุยิงกราดซูเปอร์มาร์เก็ต ในเมืองโบลเดอร์ รัฐโคโลราโด คร่าชีวิต 10 ราย เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ด้านตำรวจเมืองโบลเดอร์ตั้งข้อหาฆาตกรรมกับมือยิงกราด 10 กระทง ประธานาธิบดีไบเดน กล่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันอังคารก่อนเดินทางไปรัฐโอไฮโอ แสดงความเสียใจต่อเหตุยิงกราดในซูเปอร์มาร์เก็ตในเมืองโบลเดอร์ รัฐโคโลราโด และให้ลดธงครึ่งเสาที่ทำเนียบขาวและอาคารสถานที่ราชการ เพื่อไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิตจากเหตุยิงกราดครั้งล่าสุดนี้     ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐฯ เรียกร้องให้ผลักดันการปฏิรูปกฏหมายครอบครองปืน และห้ามซื้อขายปืนกลกึ่งอัตโนมัติทั่วประเทศ โดยระบุว่า ตนไม่ต้องการจะรอไปอีกแม้เพียงนาทีหรืออีกชั่วโมง เพื่อทำสิ่งที่ควรทำในการรักษาชีวิตของผู้คนเอาไว้ และเรียกร้องให้สมาชิกสภาสหรัฐฯ ให้ความสำคัญและเคลื่อนไหวเพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง ผู้นำสหรัฐฯ เรียกร้องให้วุฒิสภา ลงมติในมาตรการที่ได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร ว่าด้วยการอุดช่องโหว่ทางกฏหมาย เรื่องการตรวจสอบประวัติของผู้ที่จะซื้อปืนในสหรัฐฯ ระหว่างที่ในวันอังคาร คณะกรรมาธิการตุลาการของวุฒิสภาสหรัฐฯ จะรับฟังและหารือถึงหนทางในการลดความรุนแรงจากการใช้อาวุธปืนในสหรัฐฯ หลังเหตุยิงกราด 2 ครั้งในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา   Less than a week after the horrific…

Acer ถูกแรนซัมแวร์โจมตีพร้อมเรียกค่าไถ่ถึง 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

Loading

Acer บริษัทยักษ์ใหญ่ในผลิตภัณฑ์กลุ่ม โน๊คบุ๊ค แล็ปท็อป และจอมอนิเตอร์ ได้ถูกแรนซัมแวร์เข้าเล่นงาน แถมยังโดนเรียกค่าไถ่สูงมากถึง 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามรายงานข่าวพบว่าคนร้ายได้เผยแพร่หลักฐานของการเข้าถึงระบบผ่านเว็บไซต์ ซึ่งมีภาพของข้อมูลส่วนที่เป็น เอกสารการเงิน และข้อมูลเกี่ยวกับธนาคาร โดยข้อมูลเบื้องต้นจากหลายแห่งคาดว่าจะเป็นแรนซัมแวร์สายพันธุ์ REvil (บริษัทยังไม่ได้แถลงเหตุการณ์อย่างเป็นทางการแต่บอกว่ากำลังสืบสวนอยู่) อย่างไรก็ดีจากข้อมูลแชทที่ปรากฏคาดว่า Acer น่าจะถูกโจมตีวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา แต่ก็ช็อเพราะราคาค่าไถ่ 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากนั้นคนร้ายเสนอที่จะลดราคาให้ 20% หากจ่ายในเวลาที่กำหนด และสัญญาจะให้ตัวแก้ รายงานช่องโหว่ และไฟล์ที่ถูกขโมยไป พอมาถึงจุดนึงคนร้ายก็ขู่ว่าอย่าให้เกิดเหตุซ้ำรอยกับ SolarWinds เลย (ไม่รู้ว่ามีนัยยะแฝงอะไรหรือเปล่า)     การเรียกค่าไถ่ครั้งนี้ถือว่าทำลายสถิติของแรนซัมแวร์สายพันธุ์ REvil จากการเรียกค่าไถ่ Dairy Farm ที่ 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้มีแหล่งข่าวชี้ว่าการโจมตีครั้งนี้อาจสำเร็จได้เพราะช่องโหว่ Microsoft Exchange ที่กำลังโด่งดังในขณะนี้ ซึ่ง TechTalkthai เองก็ได้นำเสนอข่าวเตือนผู้ใช้ไปหลายครั้งแล้วนะครับ (https://www.techtalkthai.com/microsoft-patches-4-zero-days-for-exchange-server/) ที่มา : https://www.bleepingcomputer.com/news/security/computer-giant-acer-hit-by-50-million-ransomware-attack/…

จีนสั่งห้ามขับรถ “เทสลา” เข้าเขตทหาร หวั่นสอดแนมเขี้ยวเล็บมังกร

Loading

    กลุ่มสื่อต่างชาติ รายงาน (20 มี.ค.) วอลล์ สตรีท เจอร์นัล (The Wall Street Journal) หนังสือพิมพ์รายวันชั้นนำอ้างแหล่งข่าวระบุว่า กองทัพจีนมีคำสั่งห้ามขับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเทสลา (Tesla) เข้าสู่เขตที่ทำการของกองทัพ และอาคารที่พักอาศัยของเจ้าหน้าที่กองทัพ มาตรการดังกล่าวเกิดจากความกังวลว่ากล้องของเทสลาจะเก็บภาพและข้อมูลของกองทัพ และส่งกลับไปยังสหรัฐฯ รายงานระบุว่า กล้องแบบรอบทิศทาง (Multi-direction) และระบบเซนเซอร์อาจเปิดเผยที่ตั้งของกองทัพ ทำให้ข้อมูลลับของกองทัพรั่วไหล ทำให้ผู้ขับรถยนต์เทสลาจะต้องจอดรถยนต์อยู่ด้านนอกเขตการทหาร ปัจจุบัน รถยนต์ของเทสลาได้รับติดตั้งกล้องขนาดเล็กรอบคัน ช่วยให้คนขับสามารถจอดรถยนต์ และใช้ระบบนำทางอัตโนมัติ (autopilot) และ ระบบขับขี่ด้วยตนเอง (self-driving) นอกจากนี้ เทสลามีกล้องภายในห้องโดยสาร เพื่อตรวจสอบได้ว่าคนขับกำลังมองไปยังถนนหรือไม่ รถยนต์ดังกล่าวยังบันทึกข้อมูลสถานที่และช่วงเวลาการใช้รถยนต์ รวมทั้งเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวในโทรศัพท์มือถือ หากมีการเชื่อมต่อระบบกับรถยนต์ ทั้งนี้ กระแสข่าวดังกล่าวทำให้ราคาหุ้นเทสลา อิงค์ ร่วงลงกว่าร้อยละ 4 เมื่อวันศุกร์ (19 มี.ค.)   ———————————————————————————————————————————————————– ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์     /…