ภัยคุกคามยังมี! เพนตากอนสั่งคงกองกำลังทหารในวอชิงตันถึงกลาง มี.ค.

Loading

  กระทรวงกลาโหมสหรัฐประกาศคงกองกำลังทหารรักษาดินแดนหลายพันนายไว้ในกรุงวอชิงตันต่อไปจนถึงกลางเดือนมีนาคมนี้ แม้ว่าจะเสร็จสิ้นพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไปแล้ว เนื่องจากภัยคุกคามต่อเนื่องยังคงดำรงอยู่ อย่างไรก็ดีกระทรวงกลาโหมสหรัฐไม่ได้ระบุชัดเจนถึงสิ่งที่เป็นภัยคุกคามที่ยังคงมีอยู่ว่าคืออะไร โดยบอกเพียงว่าข้อมูลดังกล่าวได้มาจากสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (เอฟบีไอ) เท่านั้น และว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดความเสี่ยงในหลายเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในกรุงวอชิงตันในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ทางการสหรัฐยังคงวิตกกังวลถึงความเป็นไปได้ที่อาจเกิดความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง หลังการบุกยึดอาคารรัฐสภาสหรัฐเมื่อวันที่ 6 มกราคม โดยกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และเชื่อว่าความกังวลดังกล่าวยังคงอยู่ไปจนถึงวันที่วุฒิสภาสหรัฐจะเริ่มต้นพิจารณาถอดถอนทรัมป์ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้   —————————————————————————————————————————————————————- ที่มา :  มติชน    / วันที่เผยแพร่  26 มกราคม 2564 Link : https://www.matichon.co.th/foreign/news_2547850

คงไม่สงบ! ผู้ประท้วงต้านพิธีสาบานตน “ไบเดน” อาละวาดทำลายอาคาร-ปะทะตำรวจใน 2 เมือง (ชมคลิป)

Loading

  พวกผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลและต่อต้านฟาสซิสม์ ในเมืองพอร์ตแลนด์ และซีแอตเทิล สหรัฐฯ ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สินของที่ทำการพรรคเดโมแครตแห่งหนึ่ง และอาคารต่างๆ รวมถึงกระทบกระทั่งกับตำรวจเมื่อวันพุธ (20 ม.ค.) ประท้วงต่อต้านพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ภาพที่สื่อมวลชนหลายสำนักนำมาเผยแพร่ในวันพฤหัสบดี (21 ม.ค.) ภาพในวิดีโอที่โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ พบเห็นฝูงชนสวมชุดสีดำและปิดบังใบหน้า พากันทุบทำลายหน้าต่างและประตูกระจกของพรรคเดโมแครต สาขารัฐออริกอน สำนักงานธุรกิจในพอร์ตแลนด์ ฉีดพ่นสัญลักษณ์อนาธิปไตยบนป้ายพรรค เหตุการณ์ความวุ่นวายดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันพุธ (20 ม.ค.) ระหว่างนั้นเขากล่าวสุนทรพจน์เรียกร้องฟื้นฟูความเป็นอันหนึ่งเดียวกัน หลังจากสหรัฐฯ เกิดความแตกแยกอย่างหนักในยุคสมัยของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์     พอร์ตแลนด์กลายเป็นศูนย์กลางแห่งสถานการณ์ความไม่สงบต่างๆ นานาในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยกลุ่มสิทธิพลเมือง พวกอนาธิปไตย และบรรดาผู้ประท้วงต่อต้านฟาสซิสม์ ต่างเคยตะลุมลอนกับตำรวจ และบางครั้งก็กระทบกระทั่งกับพวกนักรบฝ่ายขวาและเหล่าผู้สนับสนุนของทรัมป์ เหตุประท้วงต่างๆ นานาเริ่มต้นในช่วงฤดูร้อนที่แล้ว ส่วนหนึ่งในการชุมนุมทั่วประเทศต่อต้านการเหยียดผิวและพฤติกรรมโหดเหี้ยมของตำรวจ ตามหลังการตายของจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำที่เสียชีวิตในมินนิอาโปลิส เมื่อเดือนพฤษภาคมปีก่อน หลังถูกตำรวจนั่งเอาเข่ากดคอเป็นเวลาเกือบ 9 นาทีระหว่างเข้าควบคุมตัว ตำรวจเปิดเผยว่า มี 8 คนถูกจับกุมในพอร์ทแลนด์ ฐานต้องสงสัยกระทำความผิดต่างๆ…

สหรัฐรวบหญิงบุกคองเกรส ขโมยแล็บท็อปเพโลซี หวังขายรัสเซีย

Loading

  สหรัฐรวบหญิงบุกคองเกรส ขโมยแล็บท็อปเพโลซี หวังขายรัสเซีย ทางการสหรัฐจับกุมตัวน.ส.ไรลีย์ จูน วิลเลียมส์ จากรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งถูกกล่าวหาว่าขโมยแล็บท็อปจากสำนักงานของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ขณะเกิดเหตุกลุ่มผู้ประท้วงบุกอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา การจับกุมดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่มีรายงานก่อนหน้านี้ว่าสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (เอฟบีไอ) ยื่นขออนุมัติหมายจับวิลเลียมส์ หลังมีหลักฐานว่าเธอได้ขโมยแล็บท็อปจากสำนักงานของนางเพโลซีไป และได้พยายามที่จะขายมันให้กับรัสเซีย หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานโดยอ้างว่าหนึ่งในพยานซึ่งถูกระบุว่าเป็นอดีตผู้ที่มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับวิลเลียมส์เปิดเผยว่า วิลเลียมส์ได้วางแผนที่จะส่งแล็บท็อปดังกล่าวไปให้เพื่อนที่อยู่ในรัสเซีย เพื่อให้นำไปขายให้กับหน่วยงานข่าวกรองระหว่างประเทศของรัสเซีย แต่ความพยายามดังกล่าวล้มเหลว โดยแล็บท็อปยังคงอยู่กับวิลเลียมส์แต่ไม่ชัดเจนว่าเธอได้ทำลายมันไปแล้วหรือไม่อย่างไร ขณะที่ยังไม่ชัดเจนว่าแล็บท็อปตัวที่ถูกระบุถึงมาจากสำนักงานของเพโลซีจริงหรือไม่ด้วยเช่นกัน วิดีโอที่มีการนำมาเผยแพร่หลายชิ้นแสดงให้เห็นภาพผู้หญิงที่เชื่อว่าเป็นวิลเลียมส์ ที่คอยชี้ทางให้ผู้ชุมนุมที่บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาโดยระบุว่าให้ขึ้นบันไดไปด้านบน โดยมารดาของวิลเลียมส์รับว่าสตรีที่ปรากฎในรูปเหล่านั้นคือลูกสาวของเธอ ที่จู่ๆ ก็เกิดความสนใจในการเมืองและในตัวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นมา วิลเลียมส์เดินทางไปยังกรุงวอชิงตันพร้อมกับบิดาในวันเกิดเหตุบุกอาคารรัฐสภา แต่ระหว่างเกิดเหตุวุ่นวายทั้งคู่ต่างแยกย้ายกันไปคนละทาง หลังจากนั้นเมื่อกลับมาถึงบ้าน เธอรีบจัดกระเป๋าและบอกมารดาว่าจะไม่อยู่บ้านหลายสัปดาห์ ทั้งนี้ผู้ที่มีส่วนกับการบุกรุกและก่อเหตุวุ่นวายในอาคารรัฐสภาสหรัฐค่อย ๆ ถูกจับกุมและดำเนินคดี โดยเจ้าหน้าที่อาศัยภาพจากวิดีโอและภาพนิ่งที่ถูกนำมาเผยแพร่บนโซเชียลมีเดีย แต่วิลเลียมส์เป็นรายแรกที่มีข้อกล่าวหาว่าพยายามขายของที่ขโมยมาให้กับทางการรัสเซีย   ———————————————————————————————————————————– ที่มา : มติชนออนไลน์  / วันที่  19 ม.ค.64 Link : https://www.matichon.co.th/foreign/news_2536828

สกรีนกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ ดูแลพิธีสาบานตน’ไบเดน’

Loading

  เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยที่มากขึ้นอีกระดับ เอฟบีไอได้ “ตรวจสอบ” ประวัติของเจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิทุกนาย ซึ่งจะประจำการที่กรุงวอชิงตัน ในวันสาบานตนรับตำแหน่งผู้นำสหรัฐของนายโจ ไบเดน   Defense officials tell AP they fear possible inside attack at inauguration and are having National Guard troops in DC vetted. https://t.co/8CMrpw8DlK — The Associated Press (@AP) January 18, 2021 National Guard troops place barriers and fencing to help secure National Mall pic.twitter.com/g16mFGUjQg — The Hill (@thehill)…

NSA แนะให้องค์กรหลีกเลี่ยงการใช้ DNS Resolver จาก Third-party

Loading

NSA ได้ออกเตือนให้องค์กรเลิกใช้ DNS Resolver จาก Third-party เนื่องจากเสี่ยงต่อการถูกดักจับและเปิดเผยข้อมูลการใช้งานภายใน     NSA ได้ออกเอกสารแนะนำถึงประโยชน์ของการใช้ DNS over HTTPS (DoH) ในองค์กรไว้ที่ https://media.defense.gov/2021/Jan/14/2002564889/-1/-1/0/CSI_ADOPTING_ENCRYPTED_DNS_U_OO_102904_21.PDF ทั้งนี้เพื่อเข้ารหัสทราฟฟิค DNS ระหว่าง Client และ Resolver โดยไอเดียก็คือจริงๆแล้วองค์กรควรจะบังคับให้ทราฟฟิคของตนกับ Resolver ขององค์กรเท่านั้น เพื่อจะได้บังคับใช้การควบคุมด้าน Security ได้อย่างเหมาะสมหรือบริการภายนอกที่รองรับการเข้ารหัสทราฟฟิค DNS ได้เท่านั้น ในกรณีที่ DNS ขององค์กรยังไม่สามารถรองรับการเข้ารหัสทราฟฟิค DNS ได้ องค์กรควรจะบล็อกการเข้ารหัสของทราฟฟิคไปก่อน จนกว่า DNS ขององค์กรจะมีฟีเจอร์เข้ารหัส โดยสรุปแล้วความคาดหวังของ NSA คือพยายามใช้ DNS ภายในองค์กรเท่านั้นและควรรองรับการเข้ารหัสให้ได้ รวมถึงปิดกั้นไม่ให้ Client ไปใช้ DNS Resolver ที่องค์กรไม่ได้กำหนด ช้อมูลจาก : https://www.bleepingcomputer.com/news/security/nsa-advises-companies-to-avoid-third-party-dns-resolvers/  …

สถานทูตเตือนคนไทยในวอชิงตัน-รัฐอื่น ระวังเหตุร้ายป่วนพิธี ไบเดน สาบานตนรับตำแหน่ง

Loading

  สถานเอกอัคราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน เตือนชุมชนไทยในกรุงวอชิงตันและรัฐอื่นๆ ระมัดระวังเหตุการณ์รุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐของโจ ไบเดน วันนี้ (13 ม.ค.) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน เผยแพร่เอกสารที่เป็นการเตือนชุมชนไทยในสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับเหตุการณ์ความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น โดยมีเนื้อหาดังนี้ เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2564 ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ให้ความเห็นชอบต่อการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงวอชิงตันของนายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน ระหว่างวันที่ 11 – 24 มกราคม 2564 โดยสั่งการให้กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การสนับสนุนการดำเนินการของเทศบาลกรุงวอชิงตัน ดีซี ในการเตรียมการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในช่วงพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งที่ 59 ของสหรัฐฯ ในวันที่ 20 มกราคม 2564 นี้ โดยจะมีการปิดพื้นที่บริเวณ National Mall และจะมีกองกำลัง National Guard ประมาณ 16,000 นายเข้าปฏิบัติหน้าที่เพื่อรักษาความสงบในกรุงวอชิงตัน นอกจากนี้ ยังปรากฏข่าวความเป็นไปได้ที่จะมีการชุมนุมประท้วงทางการเมืองของกลุ่มผู้ชุมนุมติดอาวุธ ณ สถานที่ราชการต่างๆ ทั่วทั้ง 50 รัฐในสหรัฐฯ โดยอาจมีการเดินทางมายังกรุงวอชิงตันในวันที่ 16…