หลอนจัด! เพนตากอนกล่าวหารอบใหม่ สงสัยจีนใช้เครนสอดแนมสหรัฐฯ เหมือนกับบอลลูน

Loading

    กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) มองเครนต่างๆ ที่ผลิตโดยจีน ซึ่งปฏิบัติการอยู่ตามท่าเรือทั้งหลายของสหรัฐฯ ในนั้นรวมถึงศูนย์กลางด้านการขนส่งหลายแห่งที่ถูกใช้งานโดยกองทัพ มีความเป็นไปได้ที่จะเป็น “ม้าโทรจัน” ที่จีนอาจใช้รวบรวมข้อมูลข่าวกรองเกี่ยวกับสิ่งของที่ขนเข้าขนออกจากอเมริกา ตามรายงานของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ในวันอาทิตย์ (5 มี.ค.)   หลังจากประเด็นบอลลูนสอดแนมจีนจบลงอย่างฉับพลัน มีรายงานว่าพวกเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงแห่งชาติ และจากเพนตากอนได้เบี่ยงเบนความสนใจไปยังอีกหนึ่งเครื่องไม้เครื่องมือที่ว่ากันว่าอาจถูกใช้สำหรับจารกรรมข้อมูล โดยแม้วอลล์สตรีท เจอร์นัล ไม่ได้บ่งชี้้ว่าเคยมีกรณีของการใช้เครนสำหรับสอดแนมจริงๆ หรือไม่ แต่สื่อมวลชนแห่งนี้อ้างความเห็นของ บิลล์ อีวานนินา อดีตเจ้าหน้าที่ต่อต้านข่าวกรองสหรัฐฯ ซึ่งแสดงความกังวลว่ามันอาจเปิดทางสำหรับการเข้าถึงจากระยะไกล เพื่อก่อความปั่นป่วนแก่กระแสสินค้า   “เครนสามารถเป็นอีกหนึ่งหัวเว่ย” อีวานนินากล่าว อ้างถึงหัวเว่ย เทคโนโลยีส์ บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีน ซึ่งผลิตภัณฑ์ของพวกเขาเป็นที่ต้องห้ามในตลาดสหรัฐฯ ในความกังวลเกี่ยวกับการสอดแนมแบบเดียวกัน “มันเป็นการผสมผสานที่สมบูรณ์แบบของธุรกิจที่ถูกกฎหมาย ที่สามารถสวมหน้ากากตบตา ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลความลับได้เช่นกัน”   ความกังวลเกี่ยวกับเครนมีขึ้นตามหลังข้อพิพาทระหว่างสหรัฐฯ กับจีนเมื่อเดือนที่แล้ว เกี่ยวกับบอลลูนที่พบเห็นลอยอยู่ในระดับสูงเหนือท้องฟ้าอเมริกา โดยรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ทำการยิงร่วงบอลลูนที่พวกเขากล่าวหาว่าเป็นบอลลูนสอดแนม นอกชายฝั่งของรัฐเซาท์แคโรไลนา หลังจากพบเห็นมันลอยข้ามท้องฟ้าของประเทศ ในขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวหาว่าจีนกำลังใช้บอลลูนลักษณะดังกล่าวทั่วโลกเช่นกัน ในฐานะเป็นเครื่องมือสอดแนม   กระทรวงการต่างประเทศจีน…

รัฐบาลสหรัฐออกแผนยุทธศาสตร์มั่นคงไซเบอร์ เสนอบริษัทซอฟต์แวร์ต้องรับผิดหากมีช่องโหว่

Loading

  รัฐบาลสหรัฐ ออกแผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงไซเบอร์แห่งชาติ (National Cybersecurity Strategy) เป็นกรอบกว้าง ๆ กำหนดแนวทางป้องกันการโจมตีไซเบอร์ โดยเฉพาะกับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ   แผนยุทธศาสตร์นี้พูดถึงการรับมือกับกลุ่มผู้ประสงค์ร้าย (threat actors), การแลกเปลี่ยนข้อมูลกลุ่มแฮ็กเกอร์-กลุ่มผู้สร้างมัลแวร์ระหว่างรัฐบาลชาติต่าง ๆ, การลงทุนด้านงานวิจัยความปลอดภัย ฯลฯ ซึ่งเป็นประเด็นกว้าง ๆ ที่พูดถึงกันในวงการความปลอดภัยไซเบอร์อยู่แล้ว   ของใหม่ที่เป็นประเด็นจับตาคือ แผนฉบับนี้เสนอแนวคิดว่า ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์หรือผู้ให้บริการควรต้อง “มีภาระรับผิด” ต่อการเกิดช่องโหว่ด้วย (ยังไม่ระบุลงไปชัดว่าเป็นความผิดอาญา หรือเสียค่าปรับอย่างเดียว) เพื่อกระตุ้นให้ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ต้องเร่งปรับตัว นำเทคนิคและมาตรการต่าง ๆ มาใช้เพื่อป้องกันการเกิดช่องโหว่ความปลอดภัย   ข้อความในแผนเขียนว่า ผู้ขายซอฟต์แวร์ไม่มีแรงจูงใจด้านการทำซอฟต์แวร์ให้ปลอดภัย แม้มีมาตรฐานที่ปฏิบัติกันในวงการอยู่แล้วแต่ก็ไม่ค่อยสนใจทำตาม เช่น ออกสินค้าที่ตั้งค่าดีฟอลต์แบบง่าย ๆ เลยทำให้โดนเจาะได้ง่ายตามไปด้วย ระบบทั้งหมดจึงมีความปลอดภัยรวมน้อยลง เมื่อการทำแบบนี้ไม่มีภาระรับผิดใด ๆ ก็ทำให้ผู้ขายซอฟต์แวร์ทำแบบนี้กันต่อไปอีกเหมือนเดิม   หลังจากแผนยุทธศาสตร์นี้ออกมาแล้ว รัฐบาลสหรัฐกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เพื่อลงรายละเอียดและพัฒนาเป็นกฎหมายที่จำเป็นต่อไป     ที่มา – Whitehouse,…

สหรัฐฯ จับกุมผู้ลักลอบส่งเทคโนโลยีการบินของประเทศให้รัสเซีย

Loading

  ทางการสหรัฐฯ จับกุมผู้ของอเมริกาให้รัสเซีย หากผิดจริง จะต้องถูกจำคุกเป็นเวลา 20 ปีต่อการลักลอบส่งออกแต่ละครั้ง   สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (2 มี.ค.) ทางการสหรัฐฯ เข้าจับกุมชายอเมริกัน 2 คน ได้แก่ ซีริล บูยานอฟสกี วัย 59 ปี และดักลาส โรเบิร์ตสัน วัย 55 ปี ที่เมืองแคนซัส ซิตี้ รัฐแคนซัส ในข้อหาลักลอบส่งมอบเทคโนโลยี Avionics ซึ่งเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ของเครื่องบินจากอเมริกาให้แก่รัสเซีย ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎหมายควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ   ศาลแขวงในรัฐแคนซัสเผยว่า บูยานอฟสกีและโรเบิร์ตสันปล่อยขาย และจัดส่งเทคโนโลยี Avionics ให้บริษัทการบินทั่วโลกที่ใช้เครื่องบินที่ผลิตในรัสเซีย     โดยทั้งคู่ได้นำเทคโนโลยีดังกล่าวมาซ่อมแซมและจัดส่งภายใต้บริษัท KanRus Trading Company ของพวกเขาเอง โดยใส่ข้อมูลรายละเอียดการส่งออกที่ผ่านการปลอมแปลง เช่น ใบแจ้งหนี้ปลอมที่ระบุว่าจะส่ง Avionics ที่ซ่อมแซมและดัดแปลงแล้วไปยังเยอรมนี แต่กลับมีสติ๊กเกอร์ของหน่วยความมั่นคงกลางรัสเซีย (Federal…

ฮือฮา! วอชิงตันอ้าง “จีน” ใช้ดาวเทียมป้อนข้อมูลช่วยทหารรับจ้างรัสเซีย “วากเนอร์” ในยูเครน ส่วนปักกิ่งเตรียมส่งดาวเทียม 13k ดวงเพื่อล้ม “อีลอน มัสก์”

Loading

  เอเจนซีส์ – กระทรวงต่างประเทศให้การต่อรัฐสภาสหรัฐฯ วันอังคาร (28 ก.พ.) ยืนยันบริษัทเทคโนโลยีจีน Spacety ส่งภาพถ่ายดาวเทียมช่วยกลุ่มทหารรับจ้างรัสเซีย “วากเนอร์” (Wagner) ในยูเครน ขณะเดียวกัน ปักกิ่งวางแผนต้องการล้มเครือข่ายดาวเทียมสตาร์ลิงค์ของ อีลอน มัสก์ เตรียมการส่งดาวเทียม 13,000 ดวงขึ้นฟ้า   เดลีเอ็กซเพรส สื่ออังกฤษ รายงานวันอังคาร (28 ก.พ.) ว่า แดเนียล คริเตนบริงค์ (Daniel Kritenbrink) ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ (US Assistant Secretary of State) ด้านเอเชียตะวันออกและกิจการแปซิฟิกให้การต่อสภาคองเกรสสหรัฐฯ ในวันอังคาร (28 ก.พ.) ชี้ว่า เชื่อว่าในเวลานี้กลุ่มทหารรับจ้างรัสเซีย วากเนอร์ (Wagner) ที่กำลังรบอยู่ในยูเครนได้รับความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีดาวเทียมจากปักกิ่ง   สื่ออังกฤษรายงานว่า บริษัท Spacety เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรจากการที่บริษัทดาวเทียมจีนแห่งนี้ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ในเบลเยียมช่วยเหลือกองกำลังวากเนอร์ ด้วยการป้อนภาพดาวเทียมของยูเครน ให้กลุ่มทหารรับจ้างรัสเซียชื่อดัง  …

ข่าวกรองสหรัฐชี้ “ศัตรูของรัฐบาลวอชิงตัน” ไม่น่าเกี่ยวข้อง “ฮาวานาซินโดรม”

Loading

  สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ว่า เนื้อหาบางส่วนจากรายงานที่จัดทำร่วมกันโดยประชาคมหน่วยข่าวกรองของสหรัฐ 7 จาก 18 แห่ง ใช้เวลาสืบสวนสอบสวนนานกว่า 2 ปี ใน 90 ประเทศ รวมถึงสหรัฐ เกี่ยวกับภาวะ “ฮาวานา ซินโดรม” ซึ่งส่งผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่การทูต เจ้าหน้าที่ข่าวกรอง และพลเมืองสหรัฐทั่วไป รวมมากกว่า 1,500 คน “พบความเป็นไปได้ในระดับต่ำมาก” ที่ “ปรปักษ์ต่างชาติ” มีความเกี่ยวข้องกับอาการป่วยดังกล่าว   ขณะเดียวกัน คณะผู้จัดทำรายงาน “ยังไม่พบหลักฐานที่มีน้ำหนัก” ว่าประเทศซึ่งรัฐบาลวอชิงตัน “ถือเป็นฝ่ายตรงข้าม” ครอบครอง “อุปกรณ์หรือชุดเครื่องมือ” อาทิ “ตัวปล่อยสัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้า” ซึ่งอาจเป็นต้นเหตุให้เกิดอาการฮาวานา ซินโดรม   รายงานฉบับดังกล่าวค่อนข้างสอดคล้องกับรายงาน ซึ่งสำนักข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) เผยแพร่เมื่อเดือน ม.ค. ปีที่แล้ว ว่าอาการส่วนใหญ่ของผู้ป่วยฮาวานา ซินโดรม ส่วนใหญ่ “สามารถอธิบายได้ด้วยเหตุผลทางการแพทย์”…

เอฟบีไอรวบชายอเมริกันนำอุปกรณ์ระเบิดเข้าสนามบิน

Loading

    เจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ ของสหรัฐฯ ได้จับกุมชายคนหนึ่งที่ถูกกล่าวหาว่านำอุปกรณ์ระเบิดไปยังสนามบินในรัฐเพนซิลเวเนียเมื่อวันจันทร์   นายมาร์ก มัฟฟ์ลีย์ วัย 40 ปี ถูกกล่าวหาว่าใส่อุปกรณ์ระเบิดไว้ในกระเป๋าที่โหลดใต้ท้องเครื่องเพื่อขึ้นเครื่องบิน ไปยังเมืองออร์ลันโด ในรัฐฟลอริดา เจ้าหน้าที่กล่าวว่า เขาหลบหนีออกจากสนามบินหลังจากถูกเรียกชื่อผ่านลำโพงเพื่อให้ไปที่โต๊ะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และถูกจับกุมที่บ้านในเย็นวันนั้น   เจ้าหน้าที่หน่วยงานรักษาความปลอดภัยด้านการขนส่ง (TSA) กล่าวว่า พวกเขาพบอุปกรณ์ดังกล่าวระหว่างการตรวจคัดกรองตามปกติ เจ้าหน้าที่กล่าวว่านายมัฟฟ์ลีย์ ได้เช็กอินเพื่อขึ้นเครื่องของสายการบินอัลลีเจียนท์ แอร์ เที่ยวบิน 201 จากท่าอากาศยานนานาชาติลีไฮ แวลลีย์ ในเมืองอัลเลนทาวน์ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองฟิลาเดลเฟียไปทางเหนือ 105 กม. ในเช้าวันจันทร์   ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมา เจ้าหน้าที่คัดกรองของ TSA ค้นพบสิ่งของต้องสงสัยและเรียกผู้เชี่ยวชาญของเอฟบีไอ รวมถึงช่างเทคนิคระเบิดมาตรวจสอบอุปกรณ์ดังกล่าว   ข้อมูลจากเอกสารแจ้งข้อกล่าวหา จาเรด วิตเมียร์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคด้านระเบิดของเอฟบีไอ กล่าวว่า พบอุปกรณ์ขนาด 7.5 ซม. ที่ซ่อนอยู่ในกระเป๋าสัมภาระของผู้ต้องสงสัย เจ้าหน้าที่กล่าวว่า วัตถุดังกล่าวเป็นห่อกลม ๆ…