อดีตวิศวกร Amazon ถูกตัดสินคุมประพฤติ จากกรณีแฮ็กข้อมูลคนนับร้อยล้านราย

Loading

  เพจ ทอมป์สัน (Paige Thompson) อดีตวิศวกรซอฟต์แวร์ของ Amazon ที่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแฮ็กธนาคาร Capital One และหลายบริษัทในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2019 ถูกศาลตัดสินคุมประพฤติเป็นเวลา 5 ปี   โรเบิร์ต เอส ลาสนิก (Robert S. Lasnik) ผู้พิพากษาประจำเขต ลงความเห็นว่าหากตัดสินให้จำคุกจะส่งผลเสียต่อทอมป์สัน เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพจิต และสถานะความเป็นคนข้ามเพศ   อย่างไรก็ดี ทางด้านอัยการ นิก บราวน์ (Nick Brown) ระบุว่าผิดหวังกับคำตัดสินที่ออกมา เพราะทางฝ่ายอัยการอยากให้ศาลตัดสินจำคุก 7 ปี บราวน์ถึงขั้นบอกว่าผิดหวังในกระบวนการยุติธรรม   สำหรับรายละเอียดการกระทำผิดนั้น ทอมป์สันได้เจาะข้อมูลส่วนบุคคลของมากกว่า 100 ล้านคน เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ Capital One ต้องยอมจ่ายเงิน 190 ล้านเหรียญ (ราว 7,113 ล้านบาท) เพื่อยุติการฟ้องร้องจากลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ แถมยังต้องเสียค่าปรับเป็นเงิน 80…

เอฟบีไอ ควบคุมตัวคู่สามีภรรยาแพทย์อเมริกัน ฐานเป็นสายลับรัสเซีย

Loading

  สำนักงานสอบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ รายงานการจับกุม พันตรี เจมี่ ลี เฮนรี แพทย์ทหารสหรัฐ กับแพทย์หญิง แอนนา กาเบรียลเลียน คู่สามีภรรยา LGBT อเมริกันฐานเป็นสายลับให้กับรัสเซีย   โดยในคำฟ้องที่อัยการยื่นต่อศาลบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ ระบุว่า พันตรีเฮนรี วัย 39 ปี จากโรงพยาบาลทหารฟอร์ตแบรกก์ (Fort Bragg) ซึ่งเป็นฐานทัพทหารขนาดใหญ่ กับแพทย์หญิงกาเบรียลเลียน อายุ 36 ปี จากโรงพยาบาลจอห์น ฮอปกินส์ ในเมืองบัลติมอร์ วางแผนที่จะแบ่งปันข้อมูลที่เป็นความลับเกี่ยวกับผู้ป่วยที่โรงพยาบาลที่ทั้งคู่ทำงานอยู่ให้กับรัสเซีย โดยบอกกับสายลับของเอฟบีไอ ว่าได้รับแรงบันดาลใจจากความรักชาติของรัสเซีย จึงต้องการช่วยรัฐบาลรัสเซีย “ทำความเข้าใจสภาพทางการแพทย์ของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลสหรัฐฯ และกองทัพ” แม้จะหมายถึงการถูกไล่ออกหรือต้องติดคุกก็ตาม   อัยการตั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิดและเปิดเผยข้อมูลด้านสุขภาพส่วนบุคคล   เมื่อหลายเดือนก่อน แพทย์หญิงกาเบรียลเลียน เคยถูกกล่าวหาว่าให้ความช่วยเหลือสถานทูตรัสเซียในกรุงวอชิงตัน ในช่วงหลังจากที่รัสเซียรุกรานยูเครน   ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม ทั้งคู่ได้รับการติดต่อจากบุคคลที่อ้างว่าทำงานให้กับสถานทูตรัสเซีย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเป็นสายลับเอฟบีไอ และบอกกับสายลับว่าสามารถเข้าถึงข้อมูลทางการแพทย์ รวมถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการฝึกทหารยูเครน…

จีนประณามสหรัฐฯ โจมตีทางไซเบอร์มหาวิทยาลัยจีน

Loading

  นายหวาง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนเปิดเผยว่า มีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่าสหรัฐฯ เป็นภัยคุกคามร้ายแรงที่สุดต่อความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ทั่วโลก และเรียกร้องให้มีความพยายามร่วมกัน เพื่อต่อต้านการละเมิดอธิปไตยในโลกไซเบอร์และกฎระเบียบระหว่างประเทศของสหรัฐฯ   เมื่อวันอังคาร (27 ก.ย.) ศูนย์ตอบสนองเหตุฉุกเฉินไวรัสคอมพิวเตอร์แห่งชาติของจีน รายงานว่า สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ (NSA) เจาะระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์และเข้าควบคุมสิ่งอำนวยความสะดวกด้านโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในประเทศจีนและแทรกซึมเข้าไปในเครือข่ายภายในของมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น โปลีเทคนิคอล ของจีนโดยใช้เซิร์ฟเวอร์ในประเทศต่างๆ เช่น เนเธอร์แลนด์และเดนมาร์ก เป็นฐานการโจมตีทางไซเบอร์ผ่าน ญี่ปุ่น เยอรมนี สาธารณรัฐเกาหลี และประเทศอื่นๆ มายังประเทศจีน ทำให้สามารถขโมยข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนและข้อมูลส่วนบุคคลได้ นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังควบคุมผู้ให้บริการโทรคมนาคมอย่างน้อย 80 ประเทศ และดำเนินการดักฟังโทรศัพท์ของผู้ใช้โทรคมนาคมทั่วโลกตามอำเภอใจ   นายหวาง กล่าวว่า รายงานฉบับนี้นับเป็นฉบับที่ 3 ของเดือนนี้ ที่เกี่ยวกับการที่สหรัฐฯ โจมตีทางไซเบอร์ต่อมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น ซึ่งที่ผ่านมา จีนได้เรียกร้องคำอธิบายจากสหรัฐฯ และขอให้ยุติการดำเนินการที่ผิดกฎหมายในทันที แต่จนถึงขณะนี้ สหรัฐฯ ยังคงนิ่งเงียบ       —————————————————————————————————————————————– ที่มา :   …

“พิพิธภัณฑ์ซีไอเอ” ปรับปรุงและเพิ่มนิทรรศการสายลับใหม่

Loading

  พิพิธภัณฑ์สำนักข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ซึ่งแอบซ่อนอยู่ในทางเดินของสำนักงานใหญ่ในเมืองแลงลีย์ รัฐเวอร์จิเนีย และยังไม่เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม กำลังเปิดเผยสิ่งประดิษฐ์ใหม่บางอย่าง ที่ถูกปลดออกจากการเป็นความลับของปฏิบัติการที่มีเรื่องราวมากที่สุดของหน่วยสืบราชการลับ นับตั้งแต่การก่อตั้งเมื่อ 75 ปีที่แล้ว   สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากเมืองแลงลีย์ รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 26 ก.ย. ว่า นางจาเนลล์ นีเซส รองผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ซีไอเอ กล่าวในการนำสื่อเที่ยวชมการจัดแสดงที่ปรับปรุงใหม่ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า ทางพิพิธภัณฑ์ใช้สิ่งประดิษฐ์เพื่อบอกเล่าเรื่องราว มันเป็นวิธีที่จะแสดงถึงความซื่อตรงและโปร่งใสเกี่ยวกับซีไอเอ ซึ่งบางครั้งมันก็เป็นเรื่องยาก แต่มันผิดปกติอย่างมาก ที่ของบางอย่างถูกปลดออกจากการเป็นความลับอย่างรวดเร็ว   BBC News   โมเดลบ้านพักของนายโอซามา บิน ลาเดน ที่เมืองอับบอตตาบัด ในปากีสถาน ซึ่งซีไอเอจำลองเพื่อใช้วางแผนปฏิบัติการให้กับหน่วยรบพิเศษของสหรัฐ   สิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ ซึ่งบางอย่างสามารถดูได้ทางออนไลน์ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในวงกว้าง ที่จะขยายการเข้าถึงสาธารณะและการสรรหาบุคลากรโดยหน่วยงานที่เป็นตำนาน แต่ก็เป็นความลับ ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างมากในเรื่องอื้อฉาว เช่นเดียวกับความสำเร็จด้านข่าวกรอง   ตัวอย่างเอกสารเนื้อหาเกี่ยวกับเหตุวินาศกรรม 9/11 สำหรับรายงานด้านความมั่นคงประจำวัน สมัยประธานาธิบดีจอร์จ…

จรวด Delta 4-Heavy ส่งดาวเทียมลับของสหรัฐฯ ขึ้นสู่อวกาศ

Loading

  ความสำเร็จของจรวดเดลต้า โฟร์ เฮฟวี (Delta 4-Heavy) ในครั้งนี้ถือเป็นช่วงท้าย ๆ ของการทำภารกิจของจรวดรุ่นนี้   วันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา บริษัท ยูแอลเอ (ULA) หรือยูไนเต็ด ลัน อลิอันซ์ (United Launch Alliance) ประสบความสำเร็จส่งจรวดเดลต้า โฟร์ เฮฟวี (Delta 4-Heavy) พร้อมดาวเทียมสอดแนมของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา จากบริเวณฐานปล่อยจรวดฐานทัพอากาศแวนเดนเบิร์ก รัฐแคลิฟอร์เนีย ชายฝั่งตะวันตกของประเทศสหรัฐอเมริกา   ข้อมูลรายละเอียดของดาวเทียมสอดแนมดวงใหม่นี้ถูกเก็บเป็นความลับและไม่เปิดเผยต่อสาธารณชนมากนัก นักวิเคราะห์เชื่อว่าอาจเป็นภารกิจ NROL-91 เป็นหนึ่งในกลุ่มดาวเทียม KH-11 มีลักษณะเป็นดาวเทียมกล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่ที่หันกลับมายังโลกสามารถตรวจจับเฝ้าระวังไฟฟ้าแบบออปติคัลความละเอียดสูงจากระดับวงโคจรของโลก   ความสำเร็จของจรวดเดลต้า โฟร์ เฮฟวี (Delta 4-Heavy) ในครั้งนี้ถือเป็นช่วงท้าย ๆ ของการทำภารกิจของจรวดรุ่นนี้ เนื่องจากเป็นจรวด 3 ลำสุดท้ายของบริษัท ยูแอลเอ (ULA) โดยจรวดอีก 2 ลำ…

ตีแผ่วิธีแกะรอย Bitcoin ของเอกชนที่ร่วมมือกับ FBI ต่อกรกับแฮ็กเกอร์ที่โจมตี Colonial Pipeline

Loading

  เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำนักงานสืบสวนกลาง (FBI) ของสหรัฐอเมริกา ด้วยความช่วยเหลือของ Chainalysis บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน สามารถระบุตัวว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์ DarkSide เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการแฮ็ก Colonial Pipeline บริษัทท่อส่งพลังงานยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว   แต่ Chainalysis ใช้วิธีการใดในการสืบค้นจนเจอเบาะแสของ DarkSide?   ต้องเริ่มเกริ่นก่อนว่า การโจมตีในครั้งนั้นส่งผลให้เกิดความโกลาหลอย่างรุนแรง นำไปสู่ภาวะขาดแคลนและการพุ่งสูงขึ้นของราคาพลังงาน เนื่องจาก Colonial Pipeline ต้องหยุดการทำงานของท่อส่งพลังงานเป็นเวลาถึง 6 วัน ท้ายที่สุดทางบริษัทต้องจ่ายค่าไถ่ให้กับ DarkSide ถึง 75 BTC ในขณะนั้นคิดเป็นมูลค่าราว 4.4 ล้านเหรียญ (ราว 165 ล้านบาท)   ทั้งนี้ ในเดือนต่อมา ทางกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ (DOJ) ออกมาระบุว่าสามารถเรียกคืนเงินที่ Colonial Pipeline จ่ายไปได้เกือบทั้งหมด   Chainalysis สามารถตรวจพบตัวตนของ DarkSide ได้จากการใช้ซอร์ฟแวร์ติดตามเส้นทางคริปโทเคอเรนซี…