ESET เผยแฮ็กเกอร์จีนให้แอป Signal และ Telegram ปลอมล้วงข้อมูลเหยื่อ

Loading

  ผู้เชี่ยวชาญจาก ESET เผยแฮ็กเกอร์จีนใช้แอปแชตปลอมแฝงมัลแวร์สอดแนมผู้ใช้งาน Android ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2020 เป็นต้นมา   ESET เชื่อว่าผู้อยู่เบื้องหลังคือกลุ่มแฮ็กเกอร์ที่มีชือเรียกว่า Gref ซึ่งปฏิบัติการสอดคล้องกับกลุ่มอื่นอย่าง APT15, Vixen Panda และ Ke3Chang   แอปที่ Gref ใช้ในการโจมตีเป็นแอปที่ทำเลียนแบบ Signal และ Telegram ด้วยการตั้งชื่ออย่าง Signal Plus Messenger และ FlyGram แฝงไว้ใน Google Play และ Samsung Galaxy Store   แอปเหล่านี้ซ่อนสปายแวร์ที่ชื่อ BabBazaar ซึ่งเป็นตัวเดียวกันที่เคยใช้สอดแนมชาวอุยกูร์ และชนกลุ่มน้อยชาวเตอร์กิกในจีน   การวิเคราะห์ชี้ว่าเป้าหมายของ Greg คือผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ที่อยู่ในโปแลนด์และเยอรมนีเป็นหลัก แต่ขยายวงไปถึงบราซิลและออสเตรเลียด้วย   วิธีการที่ใช้ลวงเหยื่อให้ดาวน์โหลดแอปปลอมคือการโปรโมตแอปในกลุ่ม Telegram ของชาวอุยกูร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนแอป Android   ข้อมูลที่ดูดออกไปจากเหยื่อมีทั้งข้อมูลรายชื่อผู้ติดต่อ…

เปิดปฏิบัติการสายลับจีน ล้วงความลับอังกฤษผ่าน LinkedIn

Loading

  HIGHLIGHTS •  เรื่องราวของจางถูกเปิดเผยจากรายงานพิเศษของ The Times of London สื่อที่เป็นหนึ่งในเสาหลักของวงการสื่อสารมวลชนอังกฤษ โดยมีการเปิดเผยถึงปฏิบัติการของสายลับชาวจีนที่เจาะความลับของสหราชอาณาจักรเป็นเวลาเกือบ 5 ปี ฟิลิป อินแกรม อดีตนายทหารระดับนายพล ซึ่งเชี่ยวชาญด้านงานสายลับไซเบอร์ อีกทั้งยังมีความรู้เกี่ยวกับด้านเคมี ชีววิทยา รังสีวิทยา รวมถึงเรื่องของอาวุธนิวเคลียร์ เปิดเผยว่า เขาได้รับคำร้องขอจากจางบน LinkedIn เมื่อ 5 ปีก่อน   •  วิธีการในขั้นต่อมาคือ หลังจากที่จับได้ว่าเป้าหมายหูตาลุกวาวกับคำว่า ‘โอกาสทางธุรกิจ’ ก็จะเสนอให้เดินทางมาที่จีนเพื่อไปร่วมงานสัมมนาสักอย่าง โดยที่เขาจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด โดยหากเป้าหมายตกหลุมพราง เดินทางไปถึงที่แล้ว ก็จะเจอวิธีการในการล้วงข้อมูล   •  จุดอ่อนของ LinkedIn สำหรับงานด้านความมั่นคงคือ การเป็นแพลตฟอร์มที่ ‘มืออาชีพ’ พยายามที่จะใส่ข้อมูลลงไปให้มากที่สุดเพื่อความน่าเชื่อถือ มันทำให้เป็นการง่ายที่จะคัดกรองหาเป้าหมายที่มีสิ่งที่ต้องการอยู่ เช่น กรณีของจางที่จะเน้นเจาะในเรื่องของความมั่นคง ก็กรองเป้าหมายให้เหลือคนที่เขาเชื่อว่าจะมีสิ่งที่เขาต้องการ     ใครหลายคนคงเคยได้ยินเรื่องราวของสายลับระดับตำนานชาวอังกฤษอย่าง เจมส์ บอนด์ เจ้าของรหัส 007…

ลอบเป็นสายลับ! รัสเซียจับอดีตลูกจ้างสถานกงสุลสหรัฐ เชือดลงโทษหนัก

Loading

  รัฐบาลมอสโกดำเนินคดีกับพลเมืองรัสเซีย ซึ่งเคยทำงานให้กับสถานกงสุลสหรัฐ “ฐานร่วมมือด้านข่าวกรอง”   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ว่าสำนักงานความมั่นคงแห่งรัฐ ( เอฟเอสบี ) ออกแถลงการณ์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ดำเนินคดีกับนายโรเบิร์ต โชนอฟ สัญชาติรัสเซีย ซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ประจำสถานกงสุลใหญ่สหรัฐ ณ เมืองวลาดิวอสตอค ในข้อหา “สมคบคิดและร่วมมือด้านข้อมูลลับกับรัฐต่างชาติ” ซึ่งเกี่ยวกับยูเครน   ทั้งนี้ โชนอฟทำงานให้กับสถานกงสุลใหญ่สหรัฐ ณ เมืองวลาดิวอสตอค เป็นเวลานานกว่า 25 ปี ก่อนต้องพ้นจากตำแหน่ง เมื่อปี 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลมอสโกประกาศจำกัดจำนวนบุคลากรการทูตของสหรัฐ และหากศาลพิพากษาว่า มีความผิดจริง โชนอฟอาจต้องรับโทษจำคุกเป็นเวลานานถึง 8 ปี     อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐให้ข้อมูลเพิ่มเติม ว่าหลังจากนั้นยังคงมีการจ้างโชนอฟในฐานะพนักงานสัญญาจ้าง มีหน้าที่รวบรวมข้อมูลข่าวสารจากสำนักข่าวของรัสเซีย โดยเน้นว่า การว่าจ้างและการทำงานของโชนอฟ “เป็นไปตามข้อบังคับและกฎหมายของรัสเซียทุกประการ”   ขณะที่นายแมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ วิจารณ์การดำเนินคดีต่อโชนอฟ…

สู่ยุคใหม่แห่งการรักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิดอัจฉริยะจาก AI

Loading

  ปัญญาประดิษฐ์ถือเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามามีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเริ่มมีการพูดถึงระบบตรวจจับด้วยกล้องวงจรปิดอัจฉริยะจาก AI แม้นี่ไม่ใช่ของใหม่แกะกล่อง แต่หลายประเทศก็เริ่มตั้งคำถามในการนำมาใช้งานเช่นกัน   กล้องวงจรปิด หนึ่งในอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย ถูกใช้งานในฐานะอุปกรณ์บันทึกภาพเพื่อยืนยันสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงตรวจสอบข้อเท็จจริงต่าง ๆ สามารถพบเห็นได้ตามท้องถนน อาคารบ้านเรือน หรือแม้แต่รถยนต์ส่วนบุคคล เรียกว่าเป็นหนึ่งในระบบรักษาความปลอดภัยที่ขาดไม่ได้ในปัจจุบัน   สำหรับภาครัฐนี่ก็ถือเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยระบุตัวตนในพื้นที่สาธารณะเป็นอย่างดี ช่วยให้สามารถตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบเรียลไทม์ ใช้งานในการดูแลรักษาความสงบภายในประเทศ นำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีนี้ให้สามารถตรวจสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ   ล่าสุดจึงเริ่มมีการนำเอาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาปรับใช้ นำไปสู่การพัฒนา กล้องวงจรปิดอัจฉริยะ ในที่สุด     ขั้นกว่าในการรักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิดอัจฉริยะจาก AI   ความก้าวหน้าของ เอไอ หรือ ปัญญาประดิษฐ์ได้รับการพูดถึงอย่างกว้างขวาง การพัฒนาก้าวกระโดดสร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ทางสังคม หลายภาคส่วนจึงเริ่มมองเห็นแนวทางการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ สู่การคิดค้นกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ ที่เริ่มมีการใช้งานแพร่หลายทั่วทุกมุมโลก   ในสหราชอาณาจักรเริ่มมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ สามารถตรวจสอบการทิ้งขยะของคนขับและผู้โดยสารที่อยู่ภายในรถ จากนั้นจะทำการระบุป้ายทะเบียนและส่งข้อมูลนี้ไปถึงเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบโดยอัตโนมัติ นำไปสู่การออกใบสั่งเสียค่าปรับซึ่งมีมูลค่าสูงสุดถึง 100 ปอนด์(ราว 4,400 บาท) เลยทีเดียว   ทางด้านสหรัฐฯได้มีการนำระบบ AI มาใช้ร่วมกับ ระบบอ่านป้ายทะเบียนอัตโนมัติ…

แฮ็กเกอร์จีน ‘Flax Typhoon’ มุ่งหน้าโจมตีรัฐบาลไต้หวัน

Loading

  ไมโครซอฟท์เผย “Flax Typhoon” กลุ่มแฮ็กเกอร์ฐานปฏิบัติการในจีน พุ่งเป้าเล่นงานหน่วยงานรัฐบาลไต้หวันหลายสิบแห่ง อาจมีเป้าหมายสอดแนม   สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน ไมโครซอฟท์ แถลงในวันพฤหัสบดี (24 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นว่า Flax Typhoon ตัวแสดงรัฐชาติมีฐานปฏิบัติการในจีน พุ่งเป้าเล่นงานหน่วยงานรัฐบาล สถาบันการศึกษา การผลิตสำคัญ และองค์กรเทคโนโลยีสารสนเทศในไต้หวันมาตั้งแต่กลางปี 2564   กิจกรรมที่สังเกตชี้ว่า “ตัวแสดงที่เป็นภัยคุกคามนี้ตั้งใจปฏิบัติการสอดแนม และคงการเข้าถึงองค์กรอุตสาหกรรมให้ได้นานที่สุดเท่าที่ทำได้ อย่างไรก็ตาม ไมโครซอฟท์ไม่ได้สังเกตเห็นการกระทำของ Flax Typhoon ตามวัตถุประสงค์สุดท้ายในปฏิบัติการนี้”   ไมโครซอฟท์กล่าวต่อว่า นอกจากไต้หวันแล้วเหยื่อของ Flax Typhoon ยังมีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อเมริกาเหนือ และแอฟริกาด้วย   ทั้งนี้ ไต้หวันกล่าวหามานานแล้วว่า จีนสอดแนมด้วยการโจมตีไซเบอร์เครือข่ายของรัฐบาล   ส่วนจีนประกาศนานแล้วว่าจะยึดไต้หวันด้วยกำลังถ้าจำเป็น ขณะนี้เพิ่มแรงกดดันทางทหาร และการเมืองต่อไต้หวัน   เดือนที่แล้ว ไมโครซอฟท์ กล่าวว่า แฮ็กเกอร์ในจีน กลุ่ม Storm-0558 พยายามหาข่าวกรองด้วยการเจาะเข้าบัญชีอีเมลหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐจำนวนหนึ่ง…

จีนจับกุมเจ้าหน้าที่รัฐในกระทรวงหนึ่ง อ้างเป็นสายให้กับ CIA

Loading

  กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐของจีนแถลงจับกุมเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำงานในกระทรวงหนึ่ง ชี้เป็นสายให้กับสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือซีไอเอ   วันที่ 21 ส.ค. ทางการจีนกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐบาลคนหนึ่งว่า เป็นสายของสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือซีไอเอ (CIA) และมีส่วนเกี่ยวกับกับคดีจารกรรมที่สำคัญ นับเป็นคดีที่สองแล้วของเดือนนี้ที่จีนออกมากล่าวหาว่าสหรัฐฯ ส่งสายสืบเข้ามาในประเทศ โดยใช้คนจีนด้วยกันเอง   ในถ้อยแถลง กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐ ระบุว่า กำลังสืบสวนเจ้าหน้าที่ในกระทรวงรายหนึ่งที่ไม่เปิดเผยชื่อ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าถูกคัดเลือกโดยซีไอเอในขณะที่เขาศึกษาอยู่ที่ญี่ปุ่น     กระทรวงฯ ระบุว่า ชาวจีนวัย 39 ปี ซึ่งถูกระบุเพียงนามสกุลว่ามีแซ่ “ห่าว” ได้รู้จักกับเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ในญี่ปุ่นขณะยื่นขอวีซ่าสหรัฐฯ โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้พยายามพัฒนาความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับห่าว ทั้งเลี้ยงข้าว ส่งของขวัญให้ และจ่ายเงินช่วยสนับสนุนการเขียนรายงานการวิจัยเพื่อจบการศึกษา   กระทรวงฯ อ้างว่า เมื่อสนิทกัน เจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ได้แนะนำห่าวให้รู้จักกับเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง ซึ่งภายหลังเปิดเผยว่าตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่ซีไอเอ และขอให้ห่าวกลับไปประเทศจีน และแฝงตัวเข้าทำงานในแผนกหนึ่งของกระทรวงหนึ่ง ซึ่งมีความสำคัญอย่างมาก   ถ้อยแถลงระบุว่า ห่าวตกลงรับข้อเสนอ โดยลงนามในข้อตกลงจารกรรมกับสหรัฐฯ และได้รับการฝึกอบรม   เมื่อกลับมาที่จีน…