ยูเครนตกรางวัลอย่างงาม นักบินรัสเซียแปรพักตร์พร้อมขับ ฮ. มามอบให้

Loading

ยูเครนเตรียมมอบเงินรางวัล 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 17.9 ล้านบาท) ให้กับ แม็กซิม คุซมินอฟ นักบินเฮลิคอปเตอร์กองทัพรัสเซียวัย 28 ปี ซึ่งตัดสินใจแปรพักตร์มายังยูเครน โดยตอนที่หนี ได้ขับเฮลิคอปเตอร์ Mi-8 ของกองทัพรัสเซียมามอบให้ยูเครนด้วย

ลอบเป็นสายลับ! รัสเซียจับอดีตลูกจ้างสถานกงสุลสหรัฐ เชือดลงโทษหนัก

Loading

  รัฐบาลมอสโกดำเนินคดีกับพลเมืองรัสเซีย ซึ่งเคยทำงานให้กับสถานกงสุลสหรัฐ “ฐานร่วมมือด้านข่าวกรอง”   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ว่าสำนักงานความมั่นคงแห่งรัฐ ( เอฟเอสบี ) ออกแถลงการณ์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ดำเนินคดีกับนายโรเบิร์ต โชนอฟ สัญชาติรัสเซีย ซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ประจำสถานกงสุลใหญ่สหรัฐ ณ เมืองวลาดิวอสตอค ในข้อหา “สมคบคิดและร่วมมือด้านข้อมูลลับกับรัฐต่างชาติ” ซึ่งเกี่ยวกับยูเครน   ทั้งนี้ โชนอฟทำงานให้กับสถานกงสุลใหญ่สหรัฐ ณ เมืองวลาดิวอสตอค เป็นเวลานานกว่า 25 ปี ก่อนต้องพ้นจากตำแหน่ง เมื่อปี 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลมอสโกประกาศจำกัดจำนวนบุคลากรการทูตของสหรัฐ และหากศาลพิพากษาว่า มีความผิดจริง โชนอฟอาจต้องรับโทษจำคุกเป็นเวลานานถึง 8 ปี     อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐให้ข้อมูลเพิ่มเติม ว่าหลังจากนั้นยังคงมีการจ้างโชนอฟในฐานะพนักงานสัญญาจ้าง มีหน้าที่รวบรวมข้อมูลข่าวสารจากสำนักข่าวของรัสเซีย โดยเน้นว่า การว่าจ้างและการทำงานของโชนอฟ “เป็นไปตามข้อบังคับและกฎหมายของรัสเซียทุกประการ”   ขณะที่นายแมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ วิจารณ์การดำเนินคดีต่อโชนอฟ…

ชายชาวสวีเดนถูกตั้งข้อหาดำเนินกิจกรรมข่าวกรองที่ผิดกฎหมายต่อสวีเดนและสหรัฐฯ

Loading

สำนักงานความมั่นคงตำรวจสวีเดนจับกุมผู้ต้องสงสัย เมื่อ พ.ย.65 ภาพ : Fredrik Sandberg/TT/EPA   เมื่อ 28 ส.ค.66 อัยการสวีเดนตั้งข้อหา นาย Sergei Skvortsov ดำเนิน “กิจกรรมข่าวกรองที่ผิดกฎหมายต่อสวีเดนและสหรัฐฯ” ตั้งแต่ปี 2556 ถึง 2565   เนื่องจากต้องสงสัยว่าได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีขั้นสูงที่มีความละเอียดอ่อนของสวีเดนไปยังรัสเซีย ที่อาจนำไปใช้เพิ่มขีดความสามารถทางทหารของรัสเซียได้ และยังต้องสงสัยว่าจัดซื้อเทคโนโลยีและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากสหรัฐฯ แล้วส่งต่อไปยังรัสเซียผ่านทางสวีเดน โดยใช้ช่องทางทางธุรกิจ โดยนาย Skvortsov ได้ถูกจับกุมและควบคุมตัวตั้งแต่ พ.ย.65   ศาลแขวงสตอกโฮล์ม ระบุว่า การพิจารณาคดีจะมีขึ้นในวันที่ 4 – 25 ก.ย.66 โดยบางครั้งจะจัดแบบปิด เนื่องจากเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ ทั้งนี้ นาย Skvortsov อายุ 60 ปี เป็นบุคคลสองสัญชาติ เขาเกิดในรัสเซียและอพยพมาอยู่สวีเดนเป็นเวลา 25 ปี โดยมีสัญชาติสวีเดนตั้งแต่ปี 2555   นาย…

ศาลมอสโกยืดเวลาจำคุกนักข่าวสหรัฐฯ อีก 3 เดือน ในข้อหา ‘เป็นสายลับ’

Loading

  สำนักข่าว TASS ของรัสเซียรายงานว่า เอฟวาน เกิร์ชโควิช ผู้สื่อข่าวชาวอเมริกันจากหนังสือพิมพ์วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ถูกศาลกรุงมอสโกสั่งยืดระยะเวลาการจำคุกเพิ่มก่อนจะมีการพิจารณาคดีในข้อหาจารกรรมข้อมูล ขณะที่สื่อต้นสังกัดยืนยันอีกครั้งว่า ข้อกล่าวหาทั้งหมดเป็นความเท็จ   เกิร์ชโควิชถูกคุมขังมาตั้งแต่สิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ขณะปฏิบัติหน้าที่ในเมืองเยคาเตรินเบิร์ก (Yekaterinburg) หลังถูกทางการรัสเซียกล่าวหาว่าเป็นสายลับ แม้ต้นสังกัดของเกิร์ชโควิชและรัฐบาลสหรัฐฯ จะต่างปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวอย่างเต็มที่ก็ตาม   ทั้งนี้ เกิร์ชโควิชเป็นสื่อมวลชนชาวอเมริกันคนแรกที่ถูกคุมขังด้วยข้อหาจารกรรม นับตั้งแต่สมัยสงครามเย็นเป็นต้นมา   เกิร์ชโควิชปรากฏตัวในศาลกรุงมอสโกในวันพฤหัสบดีเพื่อรับฟังคำร้องของอัยการให้มีการยืดระยะเวลาการจับกุมตัวเขา โดยสื่อมวลชนไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ารับฟังการพิจารณาดังกล่าว ซึ่งสื่อ TASS อ้างว่า เป็นเพราะเรื่องข้อมูลชั้นความลับในคดีนี้ที่ทำให้ไม่สามารถให้มีสื่อเข้าฟังได้   หลังการยื่นคำร้อง ศาลมอสโกสั่งขยายเวลาคุมขังผู้สื่อข่าวรายนี้ จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 สิงหาคมให้เป็นสิ้นเดือนพฤศจิกายน   นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่ผู้พิพากษารัสเซียสั่งยืดระยะเวลาคุมขังเกิร์ชโควิชก่อนการพิจารณาคดีจริง โดยแต่ละครั้งเป็นการเพิ่มเวลาอีกสามเดือน   วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ออกแถลงการณ์ในวันพฤหัสบดีที่มีเนื้อหาว่า แสดงความผิดหวังต่อ “การถูกคุมขังตามอำเภอใจและไม่ชอบธรรม สำหรับการปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชนของ(เกิร์ชโควิช)” พร้อมย้ำว่า ข้อกล่าวหาที่รัสเซียกล่าวอ้างนั้น ไร้มูลและเป็นความเท็จ   “เราจะเดินหน้าผลักดันให้มีการปล่อยตัวเขาทันที งานสื่อมวลชนไม่ใช่อาชญากรรม” แถลงการณ์ดังกล่าวระบุ  …

อึ้ง เกาหลีใต้จับนักเคลื่อนไหวจีน พยายามขี่เจ็ตสกีข้ามทะเลหนีเข้าประเทศ

Loading

  ชายที่เชื่อว่าเป็นนักเคลื่อนไหวชาวจีน ถูกหน่วยยามฝั่งเกาหลีใต้จับกุมตัว หลังพยายามหนีจากประเทศจีนมาเกาหลีใต้ด้วยการขี่เจ็ตสกีข้ามทะเลเหลือง แต่สุดท้ายไปไม่รอด   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 22 ส.ค. 2566 ว่า หน่วยยามฝั่งของเกาหลีใต้จับกุมชายคนหนึ่งที่เชื่อว่าเป็นนักเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิชาวจีนได้เมื่อสัปดาห์ก่อน หลังพบเขาพยายามขี่เจ็ตสกีข้ามทะเลเหลือง เพื่อเข้าสู่เกาหลีใต้โดยใช้เพียงกล้องส่องทางไกลและเข็มทิศช่วยนำทาง แต่สุดท้ายก็ไปต่อไม่ไหวหลังเดินทางได้ราว 300 กม.   สื่อท้องถิ่นของเกาหลีใต้ระบุชื่อของชายคนนี้ว่า ควอน พยอง เป็นนักเคลื่อนไหวที่คอยวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง แต่ยังไม่มีการยืนยันตัวตนของชายคนนี้อย่างเป็นทางการ ขณะที่สถานทูตจีนในเกาหลีใต้ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นใด ๆ   ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ยามฝั่งเกาหลีใต้ ชายคนนี้สวมเสื้อชูชีพและหมวกกันน็อก ออกเดินทางจากมณฑลซานตงพร้อมกับถังน้ำมัน 5 ถัง ด้วยเจ็ตสกีขนาด 1,800 ซีซี โดยเขาคอยเติมน้ำมันระหว่างทางและทิ้งถังน้ำมันที่ว่างเปล่าลงทะเล แต่สุดท้ายเจ็ตสกีของเขาก็ไปต่อไม่ไหวขณะอยู่ใกล้ท่าเรือสำราญ นอกท่าเรืออินชอน และต้องติดต่อขอความช่วยเหลือ   หน่วยยามฝั่งไม่ได้ระบุว่าชายคนนี้เป็นใคร แต่บอกว่าเขาถูกจับกุมเมื่อวันพุธที่ 16 ส.ค. ฐานพยายามลักลอบพาตัวเองเข้าเมืองอินชอน โดยไม่มีข้อสงสัยว่าเขาอาจเป็นสายลับ   ขณะที่นาย อี แท-ซอน นักเคลื่อนไหวในเกาหลีใต้จากองค์กรไม่แสวงกำไร Dialogue China บอกกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า…

จีนจับกุมเจ้าหน้าที่รัฐในกระทรวงหนึ่ง อ้างเป็นสายให้กับ CIA

Loading

  กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐของจีนแถลงจับกุมเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำงานในกระทรวงหนึ่ง ชี้เป็นสายให้กับสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือซีไอเอ   วันที่ 21 ส.ค. ทางการจีนกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐบาลคนหนึ่งว่า เป็นสายของสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือซีไอเอ (CIA) และมีส่วนเกี่ยวกับกับคดีจารกรรมที่สำคัญ นับเป็นคดีที่สองแล้วของเดือนนี้ที่จีนออกมากล่าวหาว่าสหรัฐฯ ส่งสายสืบเข้ามาในประเทศ โดยใช้คนจีนด้วยกันเอง   ในถ้อยแถลง กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐ ระบุว่า กำลังสืบสวนเจ้าหน้าที่ในกระทรวงรายหนึ่งที่ไม่เปิดเผยชื่อ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าถูกคัดเลือกโดยซีไอเอในขณะที่เขาศึกษาอยู่ที่ญี่ปุ่น     กระทรวงฯ ระบุว่า ชาวจีนวัย 39 ปี ซึ่งถูกระบุเพียงนามสกุลว่ามีแซ่ “ห่าว” ได้รู้จักกับเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ในญี่ปุ่นขณะยื่นขอวีซ่าสหรัฐฯ โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้พยายามพัฒนาความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับห่าว ทั้งเลี้ยงข้าว ส่งของขวัญให้ และจ่ายเงินช่วยสนับสนุนการเขียนรายงานการวิจัยเพื่อจบการศึกษา   กระทรวงฯ อ้างว่า เมื่อสนิทกัน เจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ได้แนะนำห่าวให้รู้จักกับเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง ซึ่งภายหลังเปิดเผยว่าตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่ซีไอเอ และขอให้ห่าวกลับไปประเทศจีน และแฝงตัวเข้าทำงานในแผนกหนึ่งของกระทรวงหนึ่ง ซึ่งมีความสำคัญอย่างมาก   ถ้อยแถลงระบุว่า ห่าวตกลงรับข้อเสนอ โดยลงนามในข้อตกลงจารกรรมกับสหรัฐฯ และได้รับการฝึกอบรม   เมื่อกลับมาที่จีน…