สิงคโปร์เข้ม ส่ง F-16 ขึ้นสกัด หลังพบเฮลิคอปเตอร์ต่างชาติบินล้ำเข้ามาในน่านฟ้า

Loading

  เครื่องบินขับไล่ F-16 ของสิงคโปร์ถูกส่งขึ้นบินสกัดในทันที หลังพบว่ามีเฮลิคอปเตอร์ต่างชาติล้ำเข้าน่านฟ้า   กองทัพอากาศสิงคโปร์ออกแถลงการณ์ระบุว่าได้ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ ขึ้นปฏิบัติภารกิจในช่วงเที่ยงของวันที่ 9 ส.ค. 2023 ทันทีที่พบว่ามีเฮลิคอปเตอร์ของต่างชาติบินล้ำเข้าสู่น่านฟ้าสิงคโปร์ ก่อนจะยกเลิกภารกิจหลังพบว่าไม่มีภัยคุกคามความมั่นคง   แถลงการณ์ของกองทัพเผยว่าได้ส่ง F-16 ขึ้นบิน เมื่อช่วง 12.40 น. ตามเวลาท้องถิ่น จากนั้นเมื่อตรวจพบในเบื้องต้นแล้ว พบว่าเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวเป็นของพลเรือน ที่จดทะเบียนกับบริษัทเอกชนของมาเลเซีย   ปฏิบัติการนี้ส่งผลทำให้เกิดความล่าช้าของเที่ยวบิน ในสนามบินนานาชาติชางงีราว 40 นาที ตั้งแต่เวลา 12.50 น. จนถึงเวลา 13.28 น.มีเที่ยวบินขาเข้าได้รับผลกระทบ 9 เที่ยวบิน และเที่ยวบินขาออกอีก 11 เที่ยวบิน   บัญชีเฟซบุ๊กของกองทัพอากาศสิงคโปร์ยังได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทั้งภาคพื้นดินและภาคอากาศ ที่เตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปกป้องน่านฟ้าของสิงคโปร์       ที่มา : https://www.channelnewsasia.com/singapore/f-16-jets-scrambled-helicopter-mindef-changi-airport-operations-3687481  …

สิงคโปร์เปิดตัว “หุ่นยนต์ตำรวจ” นำร่องลาดตระเวนสนามบินชางงี

Loading

  กองกำลังตำรวจสิงคโปร์นำ “หุ่นยนต์ตำรวจ” 2 ตัว มาใช้ลาดตระเวนสนามบินชางงี สูงมากกว่า 2 เมตร มองเห็นได้ 360 องศา หากในสังคมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สูงมากกว่า 7.5 ฟุต (2.3 เมตร) สายตาว่องไวมองเห็นได้รอบตัว 360 องศา เชื่อว่าคงเป็นตำรวจที่ทำให้ผู้คิดจะฝ่าฝืนกฎอาจต้องคิดทบทวนอีกทีว่าจะลงมือกระทำความผิดดีหรือไม่ แต่ล่าสุด สิงคโปร์เปิดตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้าใหม่ที่มีคุณสมบัติดังกล่าวแล้ว โดยไม่ใช่ตำรวจที่เป็นคน แต่เป็น “หุ่นยนต์ตำรวจ” ซึ่งไม่ได้มีหน้าตาเหมือนโรโบคอป ออกจะคล้ายหุ่น R2D2 จากภาพยนตร์สตาร์ วอร์ส เสียมากกว่า กองกำลังตำรวจสิงคโปร์ได้นำหุ่นยนต์ 2 ตัวมาใช้ในการลาดตระเวนสนามบินชางงี หลังจากทดลองใช้มากว่า 5 ปี และพวกมันเป็นเพียงหุ่นยนต์รุ่นแรกที่ตำรวจสิงคโปร์มีแผนจะนำมาใช้ทั่วประเทศในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เพื่อเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ภาคสนาม ตำรวจสิงคโปร์รายงานว่า หุ่นยนต์ดังกล่าวนี้ ทำงานลาดตระเวนพื้นที่สนามบินมาตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงตัวว่าพื้นที่นี้มีตำรวจตรวจตราอยู่มากขึ้น และทำหน้าที่เป็น “ดวงตาพิเศษ” ในการสอดส่องดูแลสถานการณ์ พวกเขาเสริมว่า หุ่นยนต์ตำรวจนี้ไม่ได้เป็นเพียงลูกเล่นหรือไม้ประดับเท่านั้น เพราะพวกมันสามารถตั้งวงล้อมและแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่รวมถึงบรรดานักมุงโดยใช้ไฟกระพริบ ไซเรน และลำโพง ในระหว่างที่รอให้เจ้าหน้าที่ที่เป็นคนมาถึง นอกจากนี้ ประชาชนทั่วไปยังสามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้โดยตรงด้วยการกดปุ่มที่ด้านหน้าของหุ่นยนต์…

สิงคโปร์เตรียมใช้หุ่นยนต์ตำรวจตามท้องถนนมากขึ้น

Loading

    สิงคโปร์เตรียมปรับใช้หุ่นยนต์ตำรวจในการลาดตระเวนมากขึ้นทั่วเมือง หลังจากทดลองใช้แบบจำกัดพื้นที่มากว่า 5 ปี   เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 มิถุนายน 2566 กล่าวว่า กองกำลังตำรวจสิงคโปร์ (เอสพีเอฟ) เตรียมนำหุ่นยนต์ตำรวจออกใช้ในปฏิบัติการลาดตะเวนตามท้องถนนทั่วเมือง   ล่าสุด หุ่นยนต์ตำรวจถูกนำไปใช้งานที่อาคารผู้โดยสาร 4 ของสนามบินชางงีตั้งแต่เดือนเมษายน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่แนวหน้าในการลาดตระเวนสถานที่ ตามรายงานของกองกำลังตำรวจฯ   คาดการณ์ว่าจะมีการใช้งานหุ่นยนต์ตำรวจเพิ่มขึ้นทั่วเมือง เพื่อนำเทคโนโลยีทดแทนการขาดแคลนกำลังคนในประเทศที่มีจำนวนประชากรเพียง 5.6 ล้านคน แถมอัตราการเกิดยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ   “เราวางแผนที่จะติดตั้งหุ่นยนต์ลาดตระเวนมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อเพิ่มการปฏิบัติงานของตำรวจทั่วสิงคโปร์” เอสพีเอฟระบุในถ้อยแถลง แต่ไม่ได้ระบุกรอบเวลา   หุ่นยนต์ตำรวจเหล่านี้ติดตั้งกล้อง, เซนเซอร์, ลำโพง, จอแสดงผล, ไฟกระพริบ และเสียงไซเรน   อุปกรณ์เสาที่ยืดออกได้พร้อมกล้อง 360 องศาจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ในห้องควบคุมสามารถมองเห็นได้รอบทิศทาง และช่องสัญญาณสองทางจะช่วยให้เจ้าหน้าที่พูดคุยสื่อสารกับประชาชนได้โดยผ่านหุ่นยนต์   “หุ่นยนต์ลาดตระเวนเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการล่าสุดด้านคลังแสงเทคโนโลยีของกองกำลังตำรวจสิงคโปร์ ซึ่งสามารถลาดตระเวนได้ด้วยตนเองและถ่ายทอดภาพสถานการณ์แก่ตำรวจเพื่อใช้ในการตัดสินใจได้ดีขึ้น”   ตำรวจสิงคโปร์กล่าว และเสริมว่า “ด้วยการใช้ไฟกระพริบ, เสียงไซเรน…

สิงคโปร์แขวนคอนักโทษคนที่ 2 ในรอบ 3 สัปดาห์ คดีลอบขนกัญชา

Loading

  สิงคโปร์ประหารชีวิตนักโทษคนที่สองในรอบสามสัปดาห์ จากคดีลักลอบขนกัญชาเข้าประเทศ ท่ามกลางการเรียกร้องให้ระงับโทษประหารชีวิตสำหรับผู้กระทำผิดในคดียาเสพติด   ชายวัย 37 ปี ถูกประหารในวันพุธหลังจากที่ศาลสิงคโปร์ปฏิเสธการอุทธรณ์ของผู้ต้องหาผู้นี้ โดยเขาถูกจำคุกเป็นเวลา 7 ปีก่อนที่จะถูกตัดสินประหารชีวิตเมื่อปี 2019 จากคดีที่เขาลักลอบขนส่งกัญชา 1.5 กิโลกรัม   โกกิลา อันนามาไล แห่งองค์กร Transformative Justice Collective ผู้สนับสนุนให้ยกเลิกโทษประหารชีวิตในสิงคโปร์ กล่าวว่า นักโทษผู้นี้พยายามขอให้ศาลเปิดการพิจารณาคดีของเขาใหม่อีกครั้ง เนื่องจากพบหลักฐานดีเอ็นเอและลายนิ้วมือที่เชื่อมโยงเขากับกัญชาที่มีปริมาณน้อยกว่าที่เขาถูกตัดสินเอาผิด แต่ศาลปฏิเสธที่จะเปิดการพิจารณาใหม่   ทั้งนี้ ภายใต้กฎหมายสิงคโปร์ ผู้ที่ลักลอบขนส่งกัญชามากกว่า 500 กรัม อาจต้องโทษประหารชีวิต   เมื่อปีที่แล้ว สิงคโปร์ประหารชีวิตนักโทษ 11 คนในคดีที่เกี่ยวกับยาเสพติด หลังจากระงับไปสองปีเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 โดยรายงานระบุว่าขณะนี้มีนักโทษในสิงคโปร์ที่รอการประหารอีกราว 60 คน ส่วนใหญ่เป็นคดียาเสพติด   เมื่อสามสัปดาห์ก่อน ทังการาจู ซัปปิอาห์ ชายชาวสิงคโปร์วัย 46 ปี ถูกประหารชีวิตด้วยการแขวนคอเป็นคนแรกของปีนี้ จากคดีลักลอบขนส่งกัญชามากกว่า 1…

คนสิงคโปร์ทำแบบสอบถามออนไลน์หวังรับชานมไข่มุกฟรี สุดท้ายโดนแฮ็กเอาเงินกว่า 5 แสนบาท

Loading

    ระวังให้ดี! ลูกค้าร้านชานมไข่มุกที่สิงคโปร์ทำแบบสอบถามออนไลน์เพื่อรับชานมฟรีหนึ่งแก้ว   ลูกค้าร้านชานมไข่มุกที่สิงคโปร์คนหนึ่งเห็นสติกเกอร์ที่ประตูกระจกของร้าน ชวนทำแบบสอบถามออนไลน์เพื่อรับชานมฟรีหนึ่งแก้ว เธอเห็นว่าเป็นการสำรวจของทางร้านก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อให้ได้ลิงก์เข้าไปโหลดและติดตั้งแอปฯ เพื่อทำแบบสอบถาม   แต่คืนนั้นขณะที่เธอนอนหลับอยู่ จู่ ๆ โทรศัพท์มือถือของเธอก็สว่างขึ้นมีแฮ็กเกอร์เข้ามาย้ายเงินจากบัญชีของเธอออกไป 20,000 เหรียญ (ประมาณ 512,000 บาท) จากแอปฯ ที่เธอติดตั้งไปเพื่อทำแบบสอบถามชิงรางวัล   เธอไม่ใช่รายเดียวที่ถูกหลอกให้โหลด “แอปขโมยเงิน” ตำรวจไซเบอร์ของสิงคโปร์บอกว่า ในเดือนเมษายน ตำรวจและหน่วยงานความมั่นคงทางไซเบอร์ของสิงคโปร์เตือนประชาชนเกี่ยวกับการดาวน์โหลดแอปจากเว็บไซต์ที่น่าสงสัยซึ่งอาจนำไปสู่การติดตั้งมัลแวร์บนโทรศัพท์มือถือของเหยื่อ มีคนถูกหลอกขโมยเงินในรูปแบบนี้ไปแล้ว 113 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกันไม่ต่ำกว่า 445,000 เหรียญ หรือประมาณ 11.4 ล้านบาท   นอกจากแบนเนอร์ในเว็บไซต์ต่างๆ ตอนนี้มิจฉาชีพเริ่มใช้วิธีนำสติกเกอร์ไปติดตามร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ทำเนียน ๆ ว่าเป็นของทางร้าน   ตำรวจยังบอกอีกว่าเหตุลักษณะนี้มักจะเกิดกับผู้ใช้โทรศัพท์ในระบบแอนดรอยด์ด้วย จึงขอให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ         ที่มา: asiaone    …

SMS แนบลิงก์ปลอมแก้ได้ แต่ต้องไม่ใช่แค่ประชาชนระวังตัว

Loading

    ในแต่ละปีมีผู้ตกเป็นเหยื่อ SMS ปลอมเป็นจำนวนมหาศาล คณะกรรมการการการค้ากลางของสหรัฐอเมริกา (FTC) เผยว่าในปี 2021 มูลค่าความเสียหายจากการหลอกลวงทาง SMS สูงกว่า 131 ล้านเหรียญ หรือกว่า 4,400 ล้านบาทเลยทีเดียว   แม้ปัจจุบันจะมีมาตรการให้ธนาคารเลิกส่งลิงก์ใน SMS มีการออกข้อแนะนำและคำเตือนต่าง ๆ และผู้ใช้บริการเองก็ป้องกันตัวอย่างดี แต่นั่นก็อาจไม่ใช่วิธีการแก้ไขการหลอกลวงผ่าน SMS ที่ยั่งยืน   ผู้ไม่หวังดีก็ยังสามารถส่ง SMS ตีเนียนเป็นธุรกิจประเภทอื่น ๆ ได้อยู่ดี เพราะยังมีผู้ประกอบการจำนวนมากที่ใช้ลิงก์ใน SMS เป็นช่องทางสื่อสารกับลูกค้า ทั้งการส่งข้อมูลที่จำเป็น การรับฟังความคิดเห็น และอีกมากมาย     การป้องกันการปลอมแปลง SMS (SMS Spoofing หรือ Smishing) อย่างยั่งยืนไม่สามารถทำได้ในระดับประชาชนผู้ใช้งาน แต่ต้องเป็นความรับผิดชอบระดับรัฐบาล และองค์กรที่เกี่ยวข้องในทุกระดับ มาดูกันว่าปัจจุบันในประเทศต่าง ๆ มีมาตรการอย่างไรบ้าง   ทะเบียนผู้ส่ง SMS…