ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ออกมาตราหน้ากบฏฮูตีในเยเมนว่าเป็นองค์กร “ก่อการร้าย” เมื่อวานนี้ (12 ม.ค.) ในขณะที่ฝูงเครื่องบินรบ เรือ และเรือดำน้ำของสหรัฐฯ และอังกฤษเปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มเป้าหมายของพวกฮูตีต่อเนื่องเป็นวันที่สอง
บรรยากาศในเมืองเคอร์มาน ทางตอนใต้ของอิหร่านเต็มไปด้วยความโศกเศร้า กลุ่มรัฐอิสลามออกแถลงการณ์ผ่านเทเลแกรม อ้างว่าอยู่เบื้องหลังการระเบิดสองครั้งซ้อน โดยระบุว่าสมาชิก 2 คนของกลุ่มได้สวมเสื้อกั๊กติดระเบิดแฝงตัวปะปนไปกับฝูงชน และก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในงานไว้อาลัยนายพลคาเซม โซเลมานี
เกิดระเบิด 2 ลูกซ้อนในพิธีงานรำลึกนายพลกอเซม สุไลมานี ในเวลาราว 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นวันพุธ (3 ม.ค.) ใกล้สุสานในเมืองเคอร์มาน (Kerman) ยังไม่มีคนออกมาประกาศแสดงความรับผิดชอบ มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 103 คน และผู้บาดเจ็บอีก 211 คน
มีผู้ถูกตัดสินว่ากระทำความผิดจริงฐานทำงานให้กับมอสซาด หน่วยข่าวกรองของอิสราเอล จำนวน 10 คน โดยมีอยู่ 4 คนที่ถูกตัดสินให้ประหารชีวิตด้วยการแขวนคอเมื่อวันศุกร์ (29 ธันวาคม 2566) ประกอบไปด้วย ชาย 3 คนและผู้หญิง 1 คน ส่วนอีก 6 คน ถูกตัดสินจำคุก 10 ปีในข้อหาติดต่อกับระบอบไซออนนิสต์ และทำลายความมั่นคงของชาติ
อิหร่านขู่ปิดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน รวมถึงช่องแคบยิบรอลตาร์ หากสหรัฐฯและชาติพันธมิตรยังเดินหน้าโจมตีฉนวนกาซา ขณะเดียวกัน เมื่อ 23 ธ.ค. เรือบรรทุกเคมีภัณฑ์ติดธงชาติไลบีเรียลำหนึ่ง ซึ่งมีต้นทางจากซาอุดีอาระเบียถูกโดรนปริศนาโจมตีระหว่างแล่นผ่านทะเลใกล้รัฐคุชราต อินเดีย
สำนักข่าว BBC Persian เปิดเผยเอกสารลับของรัฐบาลอิหร่านถึงความพยายามจัดการต่อ ‘กลุ่มผู้หญิงที่ไม่สวมฮิญาบ’ โดยรายละเอียดส่วนหนึ่งระบุเรื่อง ‘ศาลเคลื่อนที่’ เพื่อลงโทษผู้ที่แต่งกายไม่เหมาะสม และบทบาทของกระทรวงศึกษาธิการในการลงโทษนักเรียนหญิงที่ฝ่าฝืน
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว