ดีอีเอสเตือนระวังมิจฉาชีพหลอกทำใบขับขี่ปลอม

Loading

  ดีอีเอสพบมิจฉาชีพแอบอ้างกรมขนส่งฯ หลอกทำใบขับปขี่ปลอมที่เว็บไซต์ www.thaidriveexam.com ระวังถูกล้วงเอาข้อมูลสำคัญ ส่วนสถานการณ์ข่าวปลอม “การลงทุน-สินเชื่อกู้ยืม” ยังว่อน เตือนอย่าเสียรู้โจร เช็กข้อมูลทุกด้านให้ดีก่อนหลงเชื่อ   นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ระหว่างวันที่ 7-13 กรกฎาคม 2566 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 3,209,611 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 279 ข้อความ   ช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social Listening จำนวน 244 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 35 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 180 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 112 เรื่อง   ทั้งนี้ ดีอีเอสได้แบ่งข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจ เป็น…

เตือน! ระวังเว็บไซต์ปลอมเลียนแบบระบบจองคิว “กรมขนส่ง”

Loading

    “กรมการขนส่งทางบก” เตือนระวังเว็บไซต์ปลอมเลียนแบบระบบจองคิว ย้ำ! ให้จองคิวผ่านเว็บไซต์ที่ลิงก์ https://gecc.dlt.go.th/login หรือ แอปพลิเคชัน DLT Smart Queue ที่โหลดผ่าน Official Store (Play Store หรือ App store) เท่านั้น   นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และโฆษก ขบ. เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีกลุ่มมิจฉาชีพได้ทำการสร้างเว็บไซต์ปลอมเลียนแบบระบบจองคิวของ ขบ. มาหลอกลวงประชาชน โดยจะใช้ชื่อเว็บไซต์ https://dlt-license.com/login และเมื่อทำการกรอกข้อมูลเพื่อเข้าสู่ระบบฯ และกดปุ่มลงทะเบียน หรือกดปุ่มลืมรหัสผ่าน เว็บไซต์ปลอมดังกล่าวจะแสดงภาพหน้าจอเพื่อให้ทำการแอดไลน์ ขบ. ขอเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อเข้าเว็บไซต์ปลอมดังกล่าว หรือกรอกข้อมูลส่วนบุคคลเด็ดขาด เพราะเสี่ยงถูกมิจฉาชีพนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ในทางเสียหายและอาจสูญเสียทรัพย์สิน   ทั้งนี้ย้ำว่าหากประชาชนต้องการจองคิวทำธุรกรรมต่างๆ กับ ขบ. เช่น ทำใบขับขี่ใหม่ ต่อใบขับขี่ ทำใบขับขี่ระหว่างประเทศ การจดทะเบียนรถ ตรวจสภาพรถ ฯลฯ สามารถจองคิวออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบกที่ถูกต้องได้ที่ลิงก์ https://gecc.dlt.go.th/login…

กรมประชาฯ เจอดี มิจฉาชีพทำเพจปลอม “ข่าวจริงประเทศไทย” ล้วงตับชาวเน็ต

Loading

  ทีมงานข่าวจริงประเทศไทย สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ แจ้งความเอาผิดกับคนที่ทำเพจปลอมเลียนแบบ ทักแชตแล้วอ้างศูนย์ดำรงธรรม ให้ส่งข้อมูลไปที่ไอดีไลน์และลิงก์ ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อ   เมื่อ 3 มิ.ย. รายงานข่าวแจ้งว่า ทีมงานข่าวจริงประเทศไทย สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่แอบอ้างกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ หลังจากที่มีเพจเฟซบุ๊กใช้ชื่อเลียนแบบว่า “ข่าวจริงประเทศไทย” สร้างขึ้นเมื่อเดือน เม.ย. 2566 ที่ผ่านมา มีผู้ติดตาม 379 คน   สำหรับพฤติกรรมของเพจเลียนแบบก็คือ เมื่อเข้าไปที่กล่องข้อความแล้วพิมพ์ข้อความ จะมีข้อความอัตโนมัติ ระบุว่า “สวัสดีครับ ผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีออนไลน์ สามารถแจ้งหรือร้องทุกข์ได้ที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม Line : … (ขอสงวนไอดีไลน์) คลิก : … (ขอสงวนลิงก์) ส่งหลักฐานประวัติการสนทนาและสลิปที่ถูกหลอกลวงหรือฉ้อโกงให้เจ้าหน้าที่เก็บรวบรวมเพื่อดำเนินการสืบสวนขยายผลดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปได้นะครับ” ซึ่งเป็นไอดีไลน์ปลอม   พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. ให้ข้อมูลว่า กลุ่มคนร้ายมักจะดำเนินการในลักษณะดังกล่าว ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อ หากคลิกลิงก์หรือแอดไลน์…

ยูเครนทลายรังโจรไซเบอร์สร้างตลาดออนไลน์ปลอมหลอกเอาข้อมูลเหยื่อ

Loading

  ตำรวจยูเครนจับกุม 2 ผู้ต้องหา และคุมตัวผู้เกี่ยวข้องอีก 10 ราย สำหรับความเชื่อมโยงกับแก๊งอาชญากรรมไซเบอร์ที่ใช้วิธีฟิชชิ่งและเปิดตลาดออนไลน์ในการขโมยเงินกว่า 4.3 ล้านเหรียญ (ราว 146 ล้านบาท) จากเหยื่อ 1,000 รายทั่วยุโรป   แก๊งที่ว่านี้สร้างเว็บไซต์ดูดข้อมูลมากกว่า 100 แห่งเพื่อหลอกเอาข้อมูลบัตรธนาคารของเหยื่อ และล้วงข้อมูลบัญชี   เว็บไซต์เหล่านี้หลอกว่าขายผลิตภัณฑ์หลายตัวในราคาต่ำกว่าตลาด ซึ่งเมื่อเหยื่อเผลอกรอกข้อมูลทางการเงินเพื่อซื้อสินค้าเหล่านี้ ก็จะถูกขโมยข้อมูลทันที ก่อนจะสูญเงินไปทั้งหมด   นอกจากนี้ ยังมีการเปิดคอลเซ็นเตอร์ 2 แห่ง ตั้งอยู่ในเมืองวินนิตเซีย และลวิฟ ของยูเครน ซึ่งมีการจ้างพนักงานที่มีหน้าที่คอยดึงดูดให้เหยื่อเข้ามาซื้อสินค้า   เหยื่อมาจากหลายประเทศทั่วยุโรป ทั้ง เช็กเกีย โปแลนด์ ฝรั่งเศส สเปน และโปรตุเกส   2 ผู้ต้องหาสำคัญที่เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นหัวโจกถูกตั้งข้อหาฉ้อโกง และสร้างองค์กรอาชญากรรม มีโทษจำคุกสูงสุด 12 ปี ขณะที่เครือข่ายอีก 10 รายถูกเจ้าหน้าที่จากสหภาพยุโรปคุมตัวไว้สอบสวนต่อไป   โดยตำรวจยูเครนได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของเช็กเกียจนนำมาสู่การทลายรังโจรในครั้งนี้…

การป้องกัน Ransomware หลังแรนซัมแวร์เรียกค่าไถ่กลับมาระบาดอีกแล้ว!

Loading

ภาพ : กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี บช.สอท. – CCIB   การป้องกัน Ransomware หลังแรนซัมแวร์เรียกค่าไถ่กลับมาระบาดอีกแล้ว!   โดยพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ออกเตือน หลังพบแนวโน้มองค์กร บริษัทติดแรมซัมแวร์มากขึ้นในช่วงนี้ ซึ่งจะมาล็อกไฟล์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์เอกสาร รูปภาพ วิดีโอ จนทำให้ไม่สามารถเปิดไฟล์ใด ๆ ได้ โดยหากต้องการกู้ข้อมูลคืนมา จะต้องจ่ายเงินค่าไถ่ตามที่ผู้โจมตี หรือมิจฉาชีพเรียกร้อง จำนวนเงินค่าไถ่ก็จะแตกต่างกันไป และการชำระเงินจะต้องชำระผ่านระบบที่มีความยากต่อการตรวจสอบ หรือติดตาม เช่น การโอนเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์, การชำระเงินออนไลน์แบบเติมเงินโดยใช้บัตรกำนัล (Paysafecard), เงินสกุลดิจิทัล เป็นต้น   พนักงานสอบสวน บช.สอท. ได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากผู้เสียหายว่า บริษัทของผู้เสียหายได้รับความเสียหายจากการถูกมัลแวร์เรียกค่าไถ่ (Ransomware) ถูกล็อกไฟล์ข้อมูล ไม่สามารถเข้าถึงและใช้งานได้ มีการเรียกค่าไถ่เป็นบิตคอยน์ (Bitcoin) มูลค่าหลายล้านบาท กรณีดังกล่าว บช.สอท. ได้ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.)…

“ดีอีเอส” เร่งยกระดับไซเบอร์ซิเคียวริตี หลังพบแฮ็กเกอร์โจมตีเว็บไซต์รัฐกว่า 30 ล้าน URL

Loading

  ดีอีเอสเร่งยกระดับไซเบอร์ซิเคียวริตี หลังพบแฮ็กเกอร์เจาะระบบฝังโฆษณาและเชื่อมโยงเว็บไซต์พนันผ่านเว็บไซต์ของหน่วยงานราชการมากกว่า 30 ล้าน URL   นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการไซเบอร์ซิเคียวริตี ว่า ในช่วงปีที่ผ่านมามีปัญหาภัยคุกคามทางไซเบอร์เกิดขึ้นกับหน่วยงานในประเทศไทยกว่า 500 รายการ ส่วนใหญ่เป็นการโจมตีในรูปแบบการแฮ็กเว็บไซต์ ประมาณ 2 ใน 3 ของการโจมตีทั้งหมด ซึ่งในจำนวนนี้พบว่า หน่วยงานการศึกษาตกเป็นเป้าหมายการโจมตีมากที่สุด รองลงมาหน่วยงานสาธารณสุข และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามลำดับ   รวมทั้งยังพบหน่วยงานราชการทั้ง 20 กระทรวง โดนการแฮ็กเว็บไซต์และถูกโจมตีข้อมูลด้วยการฝังสคริปต์โฆษณาเว็บไซต์ การพนันออนไลน์มากถึง 30 ล้าน URL เพื่อหวังผลการค้นหาผ่าน google ด้วย Keyword ที่เกี่ยวกับการพนันออนไลน์เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของหน่วยงานราชการต่าง ๆ   ทั้งนี้ ทาง สกมช. ได้นำเสนอมาตรการทั้งระยะสั้นและระยะยาวต่อคณะรัฐมนตรี ในการเข้าไปแก้ปัญหาตรงจุดนี้ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น รวมทั้งติดตามและสนับสนุนการแก้ไขปัญหาของกระทรวงต่าง ๆ เพื่อทำให้สถิติการถูกโจมตีลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการตรวจสอบในขณะนี้ยังไม่พบรายงานความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการถูกโจมตีระบบไซเบอร์   นายชัยวุฒิ กล่าวเตือนประชาชนว่า ขณะนี้มีกลุ่มอาชญากรรมทางไซเบอร์ทำการล่อลวงประชาชนด้วยกลวิธีต่าง…