เปิดรายได้ธุรกิจผลิตอาวุธ Top 100 โลก ปี 66 บ.สหรัฐ-เอเชียโตเป็นประวัติการณ์

Loading

    Military Expenditure and Arms Production Programme เผยภาพรวมรายได้บริษัทผลิตอาวุธที่ติดอันดับ Top 100 (SIPRI) พบ บริษัทในสหรัฐและเอเชียรายได้โตเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ภูมิภาคอื่นก็เติบโตต่อเนื่อง ผลจากสงครามยังคงคุกรุ่นทั้งในตะวันออกกลางและสงครามรัสเซีย-ยูเครน   ในปี 2566 ผู้ผลิตอาวุธจำนวนมากเพิ่มการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น และรายได้ของบริษัทผลิตอาวุธ Top 100 ของโลกก็ดีดตัวขึ้นหลังจากลดลงเมื่อปี 2565   บริษัทอาวุธเกือบ 3 ใน 4 มีรายได้จากการจำหน่ายอาวุธเพิ่มขึ้นในปี 2566 เมื่อเทียบแบบปีต่อปี และบริษัทส่วนใหญ่ที่มีรายได้เพิ่มขึ้นอยู่ในอันดับที่ต่ำกว่าอันดับที่ 50 จาก 100   อย่างไรก็ตาม โลเรนโซ สการัสซาโต นักวิจัยจาก Military Expenditure and Arms Production Programme ของสถาบัน Stockholm International Peace Research Institute (SIPRI)…

‘ทรัมป์-แฮร์ริส’…. ใครมาก็กระทบไทย

Loading

    โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐระหว่างปี 2560-2564 จากพรรครีพับลิกัน ก่อนที่จะพ่ายแพ้การเลือกตั้งสมัยที่ 2 ในปี 2564 ให้กับโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต โดยเป็นการเลือกตั้งที่มีเหตุการณ์พลิกผันตลอด เมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศลงเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกครั้ง   ในขณะที่โจ ไบเดน ประกาศถอนตัวออกจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ของตัวเอง จึงเป็นการชิงตำแหน่งกับคามาลา แฮร์ริส ที่นับได้ว่ามีความสูสีกันมาก   หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนของไทยมีการติดตามสถานการณ์การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งนี้อย่างเต็มที่ เพราะมีผลต่อสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์โลกและเศรษฐกิจโลก   โดยในเบื้องต้นมีการประเมินว่าในกรณีที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 สหรัฐจะหันไปฟื้นฟูและพึ่งพาตนเองและมีมาตรการกีดกันการค้าผ่านกำแพงภาษี แต่มาตรการที่ออกมาจากทำให้สหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเผชิญ Stagflation และมีความเสี่ยงการขาดดุลการคลังเพิ่มสูงขึ้น   ขณะที่กรณี คามาลา แฮร์ริส ชนะเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี มีการประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มชะลอตามวัฏจักรเศรษฐกิจ โดยความเสี่ยงเงินเฟ้ออยู่ระดับจัดการได้ ส่วนการขาดดุลการคลังไม่สูงเท่ากรณีโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้ง ส่วนนโยบายการต่างประเทศจะให้ความสำคัญกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งสนับสนุนการเจรจา Indo-Pacific Economic Framework…

ไมโครซอฟท์จับมือ สกมช. ดึง AI ป้องกันภัยคุกคามดิจิทัลไทย

Loading

  สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) และไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ประกาศความร่วมมือนำเทคโนโลยี AI ยกระดับการป้องกันภัยคุกคามทางดิจิทัลของประเทศไทย โดยมุ่งเน้น 2 ด้านหลัก ได้แก่ การเสริมสร้างมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ของประเทศ และการพัฒนาศักยภาพของผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์   ความร่วมมือระหว่างไมโครซอฟท์กับ สกมช. ในครั้งนี้เป็นการนำความเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ภัยคุกคามและโซลูชันความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์มาประยุกต์ใช้ โดยได้ขยายขอบเขตให้ครอบคลุมมากกว่าเพียงหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทาง “Secure Future Initiative” ของไมโครซอฟท์ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับแรก   พลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ  กล่าวว่า “เราเชื่อมั่นว่าความร่วมมือกับไมโครซอฟท์ ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี AI และความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ในระดับโลก จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับประเทศไทย ให้มีความพร้อมทั้งทางด้านเทคโนโลยีขั้นสูง องค์ความรู้ที่สำคัญ และโครงการฝึกอบรมที่จำเป็น ถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างการป้องกันและสร้างสภาพแวดล้อมด้านดิจิทัลที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับคนไทยทุกคน”   ด้านคุณไมค์ เย รองประธานฝ่ายกิจการองค์กรและรองที่ปรึกษาด้านกฎหมายของไมโครซอฟท์ เอเชีย กล่าวว่า “ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เราได้พูดคุยกับหน่วยงานด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งชาติหลายแห่งทั่วเอเชีย ซึ่งต่างเห็นพ้องกันว่าจำเป็นต้องมีเจตจำนงที่ชัดเจนมากขึ้นในการใช้ประโยชน์จากระบบคลาวด์ขนาดใหญ่และระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI เพื่อรับมือการโจมตีทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก     รวมถึงต้องเร่งสร้างบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญอย่างต่อเนื่อง ไมโครซอฟท์เชื่อว่าความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นความรับผิดชอบของทุกคน เราจึงมีพันธกิจหลักคือ ‘การเพิ่มขีดความสามารถให้กับทุกคนและทุกองค์กรทั่วโลก’ ผ่านการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อสร้างอนาคตดิจิทัลที่มีความปลอดภัยและยืดหยุ่นมากขึ้นในประเทศต่าง ๆ รวมถึงประเทศไทย  …

TikTok เปิดศูนย์-คู่มือความปลอดภัย พร้อมฟีเจอร์ควบคุมเนื้อหาอัตโนมัติ

Loading

  TikTok ปรับโฉมฟีเจอร์ Family Pairing ให้พ่อแม่คุมเวลา-เนื้อหาลูกแบบเรียลไทม์ พร้อมทั้งเปิดตัวคู่มือ Guardian’s Guide และศูนย์ Teen Safety Center ที่ช่วยยกระดับความปลอดภัย ปกป้องผู้ใช้วัยทีน   ท่ามกลางความกังวลของผู้ปกครองทั่วประเทศต่อภัยคุกคามบนโลกออนไลน์ที่เพิ่มความซับซ้อนมากขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นการกลั่นแกล้งออนไลน์ การล่อลวง หรือการเข้าถึงเนื้อหาไม่เหมาะสม   TikTok แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่มีผู้ใช้งานหลักเป็นเยาวชน ประกาศยกระดับมาตรการปกป้องผู้ใช้งานชาวไทย ผ่านการเปิดตัว “Guardian’s Guide” และ “Teen Safety Center” ฉบับปรับปรุงใหม่ล่าสุด ในงาน Thailand Safety Summit 2024 สะท้อนความมุ่งมั่นในการสร้างพื้นที่ดิจิทัลที่ปลอดภัยสำหรับครอบครัวไทย     สิริประภา วีระไชยสิงห์ Outreach and Partnerships Lead, Trust and Safety ของ TikTok กล่าวว่า ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้น หัวใจสำคัญของการอัปเดตครั้งนี้คือฟีเจอร์…

Fano.ai บริษัทเทคฯ ฮ่องกงที่ใช้ AI จับเสียง Clone Voice ลดเสี่ยงมิจฉาชีพภาคการเงิน

Loading

  “กรุงเทพธุรกิจ” สัมภาษณ์พิเศษ “คีธ โชว” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ของ Fano.ai บริษัทเทคฯ ฮ่องกงที่ใช้ AI จับเสียง Clone Voice ลดเสี่ยงมิจฉาชีพภาคการเงิน ซึ่งเตรียมมาไทยปีหน้า เป็นที่ทราบกันดีว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และมีผลกระทบต่อวิถีชีวิตของคนในด้านต่างๆ อย่างมาก บริษัท Fano.ai คือหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีเสียงและภาษาที่กำลังมุ่งใช้เอไอเพื่อแก้ปัญหาการปลอมแปลงเสียงและความปลอดภัยด้านการยืนยันตัวตน   คีธ โชว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ของ Fano.ai ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ในมหกรรม Hong Kong Fintech Week 2024 ณ เขตปกครองพิเศษฮ่องกง ถึงความท้าทายในอุตสาหกรรม และแผนการขยายธุรกิจสู่ตลาดในภูมิภาคต่าง ๆ   ทั้งนี้ Fano.ai ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2015 โดยผู้ก่อตั้งที่มีพื้นฐานด้านการวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮ่องกง คีธเล่าว่า “เราเป็นบริษัทด้านเสียงและภาษาปัญญาประดิษฐ์ ที่มุ่งเน้นการแปลงเสียงเป็นข้อมูลเชิงบริบท ไม่ว่าจะเป็นภาษา อารมณ์ หรือความตั้งใจ…

อินเดียฮึ่มเอาผิดโซเชียลมีเดีย หลังสายการบินโดนขู่วางระเบิดนับร้อยครั้ง

Loading

สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ว่า รัฐบาลนิวเดลีระบุว่า คำขู่วางระเบิดที่แพร่หลายในวงกว้าง ถือเป็นอันตรายที่ไม่ถูกจำกัด และเตือนสื่อสังคมออนไลน์ว่า ทางการอินเดียจะดำเนินการตามกฎหมาย หากแพลตฟอร์มไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด ในการลบข้อมูลเท็จออกอย่างรวดเร็ว