มาเลเซียใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าจับอาชญากร

Loading

รัฐปีนังของมาเลเซียนำเทคโนโลยีจดจำใบหน้าและ AI ที่พัฒนาโดยบริษัท IBM มาใส่ในกล้องวงจรปิด 767 ตัวทั่วเกาะ เพื่อใช้ตรวจจับอาชญากรรม หลายคนอาจจะกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวแต่ทางสภาของรัฐยืนยันว่าเทคโนโลยีนี้จะใช้เพื่อตรวจจับใบหน้าของอาชญากรเท่านั้น เพื่อลดการก่อเหตุบนท้องถนน Chow Kon Yeow ผู้ว่าการรับปีนังให้สัมภาษณ์ว่า “เทคโนโลยีนี้จะช่วยจับภาพใบหน้าของอาชญากรหรือคนที่ตำรวจต้องการตัว ด้วยการควบคุมจากห้องควบคุมของ MBPP ที่สภาของเมือง และสำนักงานตำรวจของรัฐปีนัง การตรวจจับจะทำผ่านกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งทั่วเกาะ เป้าหมายเบื้องต้นคือลดอาชญากรรมบนท้องถนน เพื่อสร้างความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตที่ดีกับประชาชน เค้าตั้งเป้าจะเพิ่มกล้องพร้อมเทคโนโลยีจดจำใบหน้าให้เป็น 3,000 ตัวทั่วรัฐ เพื่อป้องกันการเกิดอาชญากรรมได้ดีขึ้น รวมถึงขยายพื้นที่ไปยังพื้นที่ใกล้เคียงที่อยู่ใต้การปกครองของรัฐ Seberang Perai Municipal Council (MPSP)” ส่วนทาง A. Thaiveegan ผู้บัญชาการตำรวจแห่งรัฐปีนังบอกว่า ได้ทำการอัพโหลดรูปของผู้ร้ายและคนที่ตำรวจต้องการตัวขึ้นไปในระบบเรียบร้อยแล้ว ถ้ามีการตรวจเจอใบหน้าเมื่อไหร่ AI ก็จะแจ้งเตือนทันที ซึ่งทางปีนังได้แรงบันดาลใจมาจากประเทศจีนที่เริ่มใช้เทคโนโลยีนี้มาตั้งแต่ปี 2005 แม้ว่าเทคโนโลยีจดจำใบหน้านั้นอาจจะไม่ได้ไว้วางใจได้ 100% เพราะอย่างในจีนนั้นก็มีปัญหากล้องที่เอาไว้ตรวจจับคนข้ามถนนผิดที่ ตรวจจับโฆษณาข้างรถเมล์ ส่งใบสั่งไปให้คนที่อยู่ในรูปแทนทั้งที่ไม่ได้ทำความผิดซึ่งอันนี้ก็ต้องมารอดูการปรับปรุงระบบให้ฉลาดขึ้น แต่เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ทางการของจีน ช่วยระบุตัวคนที่น่าสงสัยได้ถึง 2,000 คน จับกุมอาชญากรได้ถึง 200 คดี ————————————————————— ที่มา…

กระทรวงดีอีตั้งหน่วยงานดูแลความผิดปกติทางอินเทอร์เน็ต

Loading

กระทรวงดีอี พร้อมรับมือภัยโจรกรรมโจมตีไซเบอร์ พร้อมจัดตั้งหน่วยงานดูแลจับความผิดปกติทางอินเทอร์เน็ต นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี กล่าวว่า ได้เตรียมความพร้อม รับมือเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ Cyber Security โดยได้มีมาตราการรับมือกับการโจมตีทางระบบไซเบอร์ไว้ เพราะปัจจุบันการโจมตีผ่านระบบไซเบอร์ เริ่มมีมากขึ้น และจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมได้ เห็นได้จาก คดีการโจรกรรมข้อมูล หรือ มีนักแฮคเกอร์ สามารถเข้ามาล้วงข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูลการทำธุรกรรมทางการเงิน ก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษบกิจ รวมทั้งอาจจะกระทบไปถึงฐานข้อมูลประเทศโดยรวม จึงได้ตั้งคณะกรรมการไซเบอร์ซีเคียวริตี้แห่งชาติ หรือ  National Cyber Security Committee โดยมี นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน  ซึ่งคณะกรรมการดังกล่าวจะกำกับดูแลความปลอดภัยและวางโครงสร้างพื้นฐานด้านการเงิน ธนาคาร พลังงาน และด้านสาธารณูปโภค ที่มีการเชื่อมโยงข้อมูลการทำงานผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ขณะเดียวกันในปีหน้าจะเป็นปีแห่ง Big Data ซึ่งทุกกระทรวงจะต้องดำเนินการทำ Big Data ของแต่ละกระทรวง เพื่อเตรียมไว้ใช้ สำหรับวิเคราะห์ข้อมูลและวางแผนการพัฒนาประเทศ ผ่านโครงการต่างๆ โดยรัฐบาลลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ผ่านโครงการเน็ทประชารัฐไว้รองรับการใช้อินเทอร์เน็ตให้กับประชาชน ซึ่งภายในสิ้นปีนี้จะติดตั้งครบทั้ง 24,700 หมู่บ้าน และภายในปีหน้า…

ญี่ปุ่นพบอาชญากรรมไซเบอร์เพิ่มสูง “บิทคอยน์” ตกเป็นเป้าหมายหลัก

Loading

ตำรวจญี่ปุ่นพบปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์เพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ เฉพาะใน 6 เดือนแรกของปี 2017 มีมากถึง 69,977 คดี เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 4.9 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหลัก ๆ เป็นคดีเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิตอลที่ถูกอาชญากรเจาะระบบแล้วขโมยไปนั่นเองโดยในกรณีของการขโมยบิทคอยน์และสกุลเงินดิจิตอลอื่น ๆ นั้น พบว่ามีมูลค่าของความเสียหายรวมกัน 59.2 ล้านเยน หรือประมาณ 18 ล้านบาท โดยเป็นคดีเกี่ยวกับการแฮคบิทคอยน์ 13 คดี คดีเกี่ยวกับ Ripple 11 คดี และคดีเกี่ยวกับ Ethereum อีก 2 คดี และยังมีหลักฐานว่า มีสกุลเงินดิจิตอลอื่น ๆ ถูกโจมตีด้วยในเวลาพร้อม ๆ กัน โดยการโจมตีผู้ถือครองสกุลเงินดิจิตอลนี้เกิดขึ้นใน 13 เมืองของญี่ปุ่นหันมามองในส่วนของการฉ้อโกงทางอินเทอร์เน็ตและการสแคม (Scam) กันบ้าง ในประเทศญี่ปุ่นที่ได้ชื่อว่าสงบเรียบร้อยนั้น มีคดีฉ้อโกงทางอินเทอร์เน็ต 36,729 คดีในช่วง 6 เดือนแรกของปี และมีการแฮคระบบคอมพิวเตอร์ – การโจมตีด้วยไวรัสมากถึง 6,848…

เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธข้ามน่านฟ้าญี่ปุ่น

Loading

  กองทัพเกาหลีใต้แถลงว่าเมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันนี้ (29 ส.ค.) เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธลูกหนึ่งจากทางตะวันออกของกรุงเปียงยาง ขีปนาวุธดังกล่าวทะยานข้ามน่านฟ้าญี่ปุ่นบริเวณเกาะฮอกไกโดซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ก่อนจะระเบิดออกเป็น 3 ส่วนตกลงในมหาสมุทรแปซิฟิก มีรายงานว่าขีปนาวุธดังกล่าวคล้ายคลึงกับขีปนาวุธพิสัยใกล้ที่เกาหลีเหนือยิงทดสอบเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (26 ส.ค.) โดยได้ทะยานไปเป็นระยะทางแนวราบทั้งสิ้น 2,700 กิโลเมตร และขึ้นสู่จุดสูงสุดจากพื้นดินที่ 550 กิโลเมตร สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคของญี่ปุ่นระบุว่ายังไม่มีรายงานความเสียหาย แม้ในระยะหลังเกาหลีเหนือจะยิงทดสอบขีปนาวุธบ่อยครั้ง แต่การยิงขีปนาวุธครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปีที่ยิงข้ามดินแดนของญี่ปุ่น   เหตุดังกล่าวทำให้ญี่ปุ่นประกาศเตือนภัยฉุกเฉินทั่วภาคเหนือ ทางการบอกให้ประชาชนหลบภัยขีปนาวุธในอาคารที่มั่นคงแข็งแรงหรือชั้นใต้ดิน อย่างไรก็ตามกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นก็มิได้พยายามยิงเพื่อทำลายขีปนาวุธลูกนั้นแต่อย่างใด   ปฏิบัติการของเกาหลีเหนือครั้งนี้เพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาคให้มากขึ้นไปอีก นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่นแถลงว่านับเป็นการข่มขู่คุกคามจากเกาหลีเหนืออย่างร้ายแรงแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ทั้งเป็นภัยใหญ่หลวงที่ทำลายสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค นายอาเบะยังให้คำมั่นว่ารัฐบาลจะทำทุกทางเพื่อปกป้องชีวิตและสวัสดิภาพของประชาชนชาวญี่ปุ่น ในอดีตเกาหลีเหนือเคยยิงจรวดข้ามประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว 2 ครั้ง ในปี 1998 และ 2009 แต่ที่ผ่านมาเกาหลีเหนืออ้างว่าเป็นการยิงจรวดส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจร ไม่ได้เป็นการยิงขีปนาวุธแต่อย่างใด ที่มา : BBC Thai ลิงค์ :  http://www.bbc.com/thai/international-41078896