คณะมิชชันนารีสหรัฐฯ 17 คนถูกลักพาตัวในเฮติ!

Loading

  คณะมิชชันนารี 17 คนจากสหรัฐฯ รวมทั้งเด็ก ๆ ถูกลักพาตัวในเฮติ โดยเชื่อว่าเป็นฝีมือของแก๊งค์ลักพาตัว อ้างอิงจากข้อความเสียงที่ถูกส่งไปให้คณะมิชชันนารีอื่น​ ข้อความเสียงของคณะมิชชันนารี The Christian Aid Ministries จากรัฐโอไฮโอ ระบุว่า สมาชิก 17 คน ประกอบด้วยชาวอเมริกัน 16 คน และชาวแคนาดา 1 คน ถูกลักพาตัวไปขณะเดินทางไปช่วยสร้างที่พักสำหรับเด็กกำพร้าที่เฮติ ผู้อำนวยการผ่ายภารกิจภาคสนามของคณะมิชชันนารีเป็นผู้แจ้งให้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่โฆษกของรัฐบาลสหรัฐฯ กล่าวว่ารับทราบเรื่องนี้แล้ว พร้อมยืนยันว่าความปลอดภัยของพลเมืองอเมริกันในต่างแดนถือเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญที่สุดของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เหตุการณ์ลักพาตัวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ เพิ่งเดินทางเยือนเฮติพร้อมรับปากมอบเงินช่วยเหลือ 15 ล้านดอลลาร์ให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติของเฮติเพื่อช่วยรับมือปัญหาความรุนแรงจากแก๊งค์ต่าง ๆ เมื่อเร็ว ๆ นี้ อัซรา เซยา รองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายความมั่นคงพลเรือน ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน ระบุทางทวิตเตอร์ว่า “การปราบปรามแก๊งค์ต่าง ๆ คือส่วนสำคัญในการสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงในเฮติ”   Dismantling violent gangs is vital to…

อัยการเฮติห้ามนายกฯออกนอกประเทศ มั่นใจพัวพันคดีลอบสังหารประธานาธิบดี

Loading

  อัยการห้ามนายกฯเดินทางออกนอกประเทศ จนกว่าจะตอบข้อซักถามของคณะอัยการแล้วเสร็จ เชื่อพัวพันคดีลอบสังหารประธานาธิบดีเฮติ หัวหน้าคณะอัยการของเฮติเปิดเผยว่า มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่า นายอาเรียล อองรี รักษาการนายกรัฐมนตรีเฮติมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารนายโฌเวแนล โมอิส ประธานาธิบดีเฮติ พร้อมกับมีคำสั่งห้ามไม่ให้นายอองรีเดินทางออกนอกประเทศจนกว่าเขาจะสามารถตอบข้อซักถามของคณะอัยการแล้วเสร็จ คณะอัยการได้ขอหมายเรียกจากตำรวจเพื่อเชิญนายอองรีเข้าให้ปากคำกรณีที่เขาได้ติดต่อกับผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งที่มีส่วนพัวพันกับการลอบสังหารประธานาธิบดี โดยบันทึกการโทรศัพท์แสดงให้เห็นว่า นายอองรีได้พูดคุยกับผู้ต้องสงสัยชื่อนายโจเซฟ บาดิโอ อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของเฮติในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ปธน.โมอิสถูกลอบสังหารที่บ้านพักในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา รายงานระบุว่า ขณะนี้นายอองรีได้กลายเป็นผู้ถูกสงสัยมากที่สุดว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารปธน.โมอิส ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีการจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยมากกว่า 40 คน แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานมากพอที่จะโยงไปถึงตัวผู้ที่ออกคำสั่งและจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ผู้ที่ลงมือสังหาร รวมทั้งแรงจูงใจในการสั่งการให้สังหาร ด้านสำนักนายกรัฐมนตรีเฮติได้ปฏิเสธคำสั่งที่อัยการห้ามไม่ให้นายกรัฐมนตรีอองรีเดินทางออกนอกประเทศ โดยกล่าวว่า เป็นคำสั่งที่มิชอบด้วยกฎหมายและเป็นการคุกคามทางการเมือง ขณะที่สื่อมวลชนได้พยายามโทรศัพท์ถึงนายอองรีเพื่อขอสัมภาษณ์ความคิดเห็น แต่จนถึงขณะนี้นายฮองรียังไม่ได้ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด ทั้งนี้ กฎหมายของเฮติกำหนดว่า ห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ด้านกฎหมายดำเนินคดีกับข้าราชการระดับอาวุโสโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้นำประเทศ ซึ่งผู้นำของเฮติในขณะนี้ก็คือนายอองรี เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายพร้อมด้วยอาวุธได้บุกเข้าไปลอบสังหารปธน.โมอิสในบ้านพัก ซึ่งส่งผลให้ทั้งปธน.โมอิส และนางมาร์ติน โมอิสผู้เป็นภรรยา เสียชีวิต โดยเหตุลอบสังหารปธน.เฮติเกิดขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมือง และภาวะไร้เสถียรภาพในเฮติ รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของการก่อเหตุรุนแรงของขบวนการอาชญากรรม   ———————————————————————————————————————————————– ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ        / วันที่เผยแพร่   15…