สถานทูตไทยในเมียนมา เตือน “คนไทย” ระวังถูกหลอกชวนไปทำงานเมียนมา

Loading

  เตือน “คนไทย” ระวังถูกหลอก ชวนไปทำงานเมียนมา สุดท้ายกลับบ้านไม่ได้   สถานทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ย้ำเตือน “คนไทย” อย่าหลงเชื่อกลลวง เครือข่ายนายทุนสีเทา ชวนให้มาทำงานสายดำ สุดท้ายโดนหลอกจนเดินทางกลับบ้านไม่ได้   วันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 มีรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก Royal Thai Embassy, Yangon ได้โพสต์ข้อความระบุว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ขอย้ำเตือน คนไทยอย่าได้หลงเชื่อกลลวงเครือข่ายนายทุนสีเทา โฆษณาชวนเชื่อว่าพอไปทำงานในเมียนมา แล้วจะได้รายได้หลักหมื่นหลักแสน แต่ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อเดินทางไปถึง ก็จะถูกยึดหนังสือเดินทางทำให้กลับไทยไม่ได้   โดนบีบบังคับให้ทำงานสายดำ เช่น Call Center งาน Scammer งานขายบริการทางเพศ ตลอดจนให้เสพยาเสพติด ตกเป็นหนี้หลักแสน โดนเรียกค่าไถ่ ถูกลงโทษด้วยวิธีการต่าง ๆ หากไม่สามารถทำยอด หรือปฏิเสธที่จะทำงาน หรือถูกขายต่อเป็นทอด ๆ…

‘กสทช.’ จับมือ ‘ตำรวจ’ เพิ่มมาตรการ ‘เข้ม’ สกัด ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’

Loading

  กสทช. จับมือ ตำรวจ ประชุมอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายฯ เพิ่มมาตรการสกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมเพิ่มมาตรการต่าง ๆ ภายใต้ พ.ร.ก.มาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2566   พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช.ด้านกฎหมายและประธานอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีฯ, พล.ต.ท.ดร.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ดูแลงานด้าน อาชญากรรมเทคโนโลยี ได้เรียกประชุมอนุกรรมการบูรณาการแนวทางบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีโทรคมนาคม เพื่อเร่งเพิ่มมาตรการปราบปราม ซิมผี บัญชีม้า สถานีโทรคมนาคมเถื่อน, เสาสัญญาณตามแนวชายแดนผิดเงื่อนไข, ตลอดจนกำหนดคุณลักษณะเบอร์ต้องสงสัย และ สนับสนุนชุดข้อมูลการใช้ ตำแหน่งที่ใช้ โทรศัพท์ของกลุ่มแก๊งมิจฉาชีพ แก่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ หอประชุม ชั้น 2 สำนักงาน กสทช.   พล.ต.อ.ณัฐธรฯ กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่ กสทช. ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร…

ทลาย “เสาเถื่อน” ลอบปล่อยสัญญาณให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชายแดน

Loading

  ตร.ไซเบอร์ – กสทช.ตรวจสอบเสาเถื่อนลอบปล่อยสัญญาณให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชายแดน พบลักลอบตั้ง 4 สถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 23 สถานีฯ ที่ได้รับอนุญาต แต่มีสายอากาศหันไปทางประเทศเพื่อนบ้าน สั่งถอนการติดตั้งบางจุด ไม่ให้แพร่สัญญาณออกนอกไทย   วันที่ 16 ส.ค.2566 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ร่วมกับ พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช. ด้านกฎหมายและประธานอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีฯ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. นำกำลังลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อตรวจสอบสถานีวิทยุคมนาคมที่ไม่ได้รับอนุญาต และสถานีวิทยุคมนาคมที่ได้รับอนุญาตแต่ปฏิบัติผิดเงื่อนไข เช่น หันตัวส่งสัญญาณไปยังประเทศเพื่อนบ้าน รวมจำนวน 27 สถานี   พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ฯ กล่าวว่า การหลอกลวงและกระทำผิดทางเทคโนโลยีที่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน และมีมูลค่าความเสียหายที่สูงมาก ถือเป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วนที่ต้องปราบปรามอย่างจริงจัง จากแนวทางการสืบสวนพบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ส่วนใหญ่ อยู่บริเวณแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ได้อาศัยสัญญาณโทรศัพท์และสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากประเทศไทยในการกระทำผิด   ทั้งนี้…

กสทช.ถกแก้ปัญหาสัญญาณเน็ตชายแดน หลังพบมิจฉาชีพลอบใช้กระทำผิดกฎหมาย

Loading

  เร่งแก้ปัญหาสัญญาณอินเทอร์เน็ตบริเวณชายแดนในฝั่งไทย พบอาจเอื้อต่อกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ มิจฉาชีพ ลักลอบนำสัญญาณไปใช้กระทำผิดกฎหมาย ชี้การตัดสัญญาณไม่ใช่ทางออก กระทบคนใช้สุจริต   รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช. ได้จัดประชุมคณะทำงานกำหนดแนวทางดำเนินการเกี่ยวกับความผิดทางเทคโนโลยี โทรคมนาคมและความมั่นคงของรัฐ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 โดยเฉพาะเรื่องการแก้ปัญหาใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตบริเวณชายแดนในฝั่งไทย ซึ่งพบว่า อาจเอื้อต่อกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ ที่ลักลอบนำสัญญาณไปใช้กระทำผิดกฎหมาย   โดยที่ประชุมคณะทำงานฯ ในส่วนผู้ปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบจับกุม และผู้กำหนดแนวทางในการดูแลปัญหา ได้มีการหารือเพื่อกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหา และหามาตรการที่เกิดสมดุลในการบังคับใช้กฎหมาย การดำเนินคดีกับมิจฉาชีพ และการไม่ให้เกิดผลกระทบกับผู้บริโภคในพื้นที่ชายแดน เนื่องจากการกระทำผิดของมิจฉาชีพมีความซับซ้อนและใช้เทคนิคกลโกงขั้นสูงมากขึ้น เช่น ใช้ช่องว่างของสัญญาณให้บริการของโอเปอเรเตอร์ที่มีความแรงข้ามขายแดน ในการกระทำความผิด ใช้บริการ ไว-ไฟ จากฝั่งไทยยิงสัญญาณข้ามชายแดนไปจุดที่ตั้งของคอลเซ็นเตอร์เถื่อน และใช้ ซิม บ็อกซ์ หรือ เบส สเตชั่น ปลอม เพื่อยิงเอสเอ็มเอสหลอกลวง ว่ามาจากผู้ห้บริการเครือข่าย ฯลฯ   แหล่งข่าวจาก กสทช. กล่าวว่า ทาง กสทช. ได้สั่งให้ สำนักงาน กสทช. ในเขตพื้นที่ตามแนวชายแดน ดำเนินการกำกับดูแลในเรื่องนี้อยู่แล้ว โดยพนักงาน กสทช. ในพื้นที่ จะประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการไม่ให้ส่งสัญญาณได้ โดยที่ผ่านมา ได้มีการดำเนินการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วหลายครั้ง เท่าที่ทราบกรณีที่เกิดขึ้นมีทั้งฝั่งชายแดน ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งติดกับประเทศเมียนมา และ สปป.ลาว บริเวณ จ.นครพนม รวมถึงเสาที่ตั้งบริเวณใกล้บ่อนการพนัน กรณีที่ได้ดำเนินการไปแล้ว จะเป็นเสาที่ลักลอบตั้งขึ้นอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการได้ทันที   “เมื่อมิจฉาชีพใช้กลโกงที่ซับซ้อน เจ้าหน้าที่ต้องสังเกตและรู้เท่าทันกลโกง การจะตัดสัญญาณสื่อสารบริเวณชายแดน ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เพราะจะเกิดผลกระทบต่อผู้ที่ใช้บริการโดยสุจริต เจ้าหน้าที่ของไทยทราบว่า คอลเซ็นเตอร์เถื่อนตั้งอยู่ที่ไหนแต่เอาผิดไม่ได้ เพราะกฎหมายของไทยกับเพื่อนบ้านแตกต่างกัน ในอนาคตมีความจำเป็นต้องมีคณะทำงานร่วมเพื่อจัดการกับปัญหาอย่างจริงจัง ควบคู่ไปกับการกำหนดมาตรการที่เข้มข้นขึ้น แต่ไม่ให้เกิดผลกระทบกับผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย”       ————————————————————————————————————————————————— ที่มา :                   …

เปิดอุบายใหม่ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้าง บริษัทเครือ Tiktok อยากเพิ่มผู้ติตดาม

Loading

  เปิดกลอุบายใหม่ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นบริษัทในเครือ Tiktok อยากเพิ่มผู้ติตดาม หลอกโหลดแอปฯ เถื่อน ชี้ชัดเป็นกลุ่มแอปฯ ดูดเงิน   หลังจากประเทศไทยประสบภัย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ กันถ้วนหน้า ทั้งประชาชนธรรมดา ผู้บริหารใหญ่ และนายตำรวจระดับสูงยังโดน ล่าสุด ต๋าสปริงนิวส์ นพฤทธิ์ กมลสุวรรณ ผู้สื่อข่าวและพิธีกรรายการ DigitalLife ของ SPRiNG News เจอเอง กับ อุบายใหม่ อ้างเป็นบริษัทเครือ Tiktok อยากเพิ่มผู้ติตดาม   โดยเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2566 แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้ใช้เบอร์ที่แสดงในโทรศัพท์มือถือขึ้นต้นด้วย 02 ซึ่งดูน่าเชื่อถือเมื่อเทียบกับเบอร์อื่น ๆ ที่ขึ้นต้นด้วย +67 หรือ +69 โทรเข้ามายังเบอร์ส่วนตัวของ ผู้สื่อข่าวและพิธีกรของสปริงนิวส์   ปกติแล้วมิจฉาชีพมักอ้างองค์กรที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายและพัสดุในชีวิตประจำวัน เช่น มีพัสดุไปรษณีย์ไทย , มีคดีความที่เกี่ยวกับเจ้าของเบอร์ เป็นต้น…

กรมที่ดินเตือนแก๊งคอลเซ็นเตอร์อาละวาดหนัก ปลอมเว็บไซต์-ไลน์กรมที่ดินหลอกดูดเงินหมดบัญชี ห้ามหลงเชื่อเด็ดขาด

Loading

  นายชยาวุธ จันทร อธิบดีกรมที่ดิน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏข้อมูลทางสื่อสังคมออนไลน์ ว่ามีแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน ไลน์หรือโทรศัพท์สอบถามไปยังเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน หรืออาคารชุด ว่า พักอาศัยอยู่เองหรือปล่อยให้มีการเช่าหรือให้ยืนยันกรรมสิทธิ์ในอาคารชุด โดยให้แจ้งข้อมูลส่วนบุคคล ชื่อ ที่อยู่ เลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก รวมถึงการให้ยืนยันกรรมสิทธิ์ผ่านทางลิงก์ อีกทั้งยังได้ปลอมแปลงหนังสือราชการของกรมที่ดินสำรวจฐานข้อมูลผู้เสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ส่งไปยังผู้ถือกรรมสิทธิ์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ นั้น   กรมที่ดินขอเรียนชี้แจงว่า หากมีบุคคลแอบอ้างตามข้อมูลข้างต้น และหลอกให้ดาวน์โหลดโปรแกรมไม่พึงประสงค์หรือเข้าเว็บไซต์อื่น   โปรดอย่าหลงเชื่อเด็ดขาด กรมที่ดินไม่มีนโยบายการดำเนินการดังกล่าวผ่านทางโทรศัพท์ และช่องทางไลน์แอปพลิเคชัน หรือช่องทางออนไลน์อื่น ๆ ผ่านทางลิงก์ หรือเว็บไซต์แต่อย่างใด เว็บไซต์ของกรมที่ดินมีเพียงเว็บไซต์เดียวคือ www.dol.go.th เท่านั้น หากประชาชนพบเห็นการกระทำดังกล่าว สามารถแจ้งความดำเนินคดีผู้ที่หลอกลวงที่อาจสร้างความเสียหายและความเดือดร้อนรำคาญได้ทันที     โดยพฤติการของคนร้าย คือ จะหลอกให้เหยื่อเข้าเว็บไซต์ปลอมของกรมที่ดิน และให้เข้าแชตไลน์ปลอม (ใช้ชื่อไลน์ว่ากรมที่ดิน หรือ SmartLands) เพื่อหลอกถามข้อมูลส่วนตัว และส่งลิงก์ให้กรอกข้อมูล หรือส่งลิงก์ให้ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอม เมื่อเหยื่อหลงเชื่อติดตั้งแอปพลิเคชันดังกล่าว ระหว่างนั้นโทรศัพท์จะขึ้นข้อความ “ระหว่างทำการตรวจสอบห้ามใช้งานมือถือ” ซึ่งคนร้ายจะใช้ช่วงเวลานี้ดำเนินการดูดเงินจากบัญชีผู้เสียหาย  …