สองสายการบินไต้หวันประกาศ ห้ามใช้งาน “พาวเวอร์แบงก์” ในห้องโดยสาร
ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2568 สายการบินไม่อนุญาตให้มีการใช้งานและชาร์จพาวเวอร์แบงก์ และแบตเตอรี่สำรอง ตลอดการเดินทางบนทุกเที่ยวบิน และทุกเส้นทางการบิน เพื่อความปลอดภัยทางการบิน
ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2568 สายการบินไม่อนุญาตให้มีการใช้งานและชาร์จพาวเวอร์แบงก์ และแบตเตอรี่สำรอง ตลอดการเดินทางบนทุกเที่ยวบิน และทุกเส้นทางการบิน เพื่อความปลอดภัยทางการบิน
สายการบินแอร์ปูซาน (Air Busan) ของเกาหลีใต้ จะกำหนดให้ผู้โดยสารต้องพกแบตเตอรี่สำรอง หรือพาวเวอร์แบงค์ ไว้กับตัว ห้ามใส่ไว้ในกระเป๋าถือขึ้นเครื่องบินที่จะต้องเก็บไว้ในช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะ หลังเกิดเหตุไฟไหม้บนเครื่องบิน
พาวเวอร์แบงก์ หรือ แบตเตอรี่สำรอง กลายเป็นสิ่งจำเป็นในยุคเทคโนโลยี ยิ่งถ้าต้องเดินทางด้วยเครื่องบิน ยิ่งจำเป็นต้องรู้เลยว่า “พกขึ้นเครื่องเท่านั้น” ห้ามโหลดลงใต้เครื่องเด็ดขาด แต่จะพกได้มากน้อยกี่อัน ต้องเป็นไปตามกฎมาตรฐานความปลอดภัยที่ กพท. กำหนด พาวเวอร์แบงก์ หรือ แบตเตอรี่สำรอง กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักเดินทางในยุคเทคโนโลยีขณะนี้แล้ว ถือเป็นอุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้ผู้เดินทางบ่อยๆ สะดวกสบายมากขึ้น แต่หากการเดินทางนั้น ต้องโดยสารด้วยเครื่องบิน การพกพาวเวอร์แบงก์ก็จะมีข้อบังคับใช้เข้ามากำกับเพิ่มขึ้น ซึ่งข้อบังคับนี้เป็นไปตามกฎมาตรฐานความปลอดภัยสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย “พาวเวอร์แบงก์ต้องพกติดตัวขึ้นเครื่องเท่านั้น ห้ามใส่กระเป๋าโหลดใต้เครื่องเด็ดขาด” ไม่มีคนดับไฟในห้องเก็บกระเป๋า เหตุผลสำคัญที่ไม่ให้นำพาวเวอร์แบงก์ รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ โหลดไปกับกระเป๋าใต้เครื่อง เพราะแบตเตอรี่ที่อยู่ในนั้น หากเกิดการระเบิดหรือไหม้ ขึ้นมา “จะไม่สามารถดับไฟได้” เพราะห้องเก็บกระเป๋าใต้เครื่องบินไม่มีผู้โดยสารอยู่รวมถึงไม่มีการปรับความดันอากาศในนั้น แล้วใครจะมาดับไฟให้ได้ล่ะ ? แต่สำหรับกรณีที่ขนส่งสัตว์ เช่น สุนัข แมว จะถูกเก็บไว้ในห้องที่สามารปรับความดันอากาศได้ น้องหมาน้องแมวก็จะยังสามารถหายใจได้ตามปกติเหมือนในห้องโดยสารของผู้โดยสารด้านบน พกได้กี่เครื่องต้องดูที่ปริมาตรความจุ พาวเวอร์แบงก์ที่สามารถใส่กระเป๋าถือขึ้นเครื่องบินได้ ต้องมีขนาดความจุไฟฟ้าไม่เกิน 32,000 mAh…
วิธีใช้พาวเวอร์แบงค์ให้ปลอดภัย ป้องกันพาวเวอร์แบงค์ระเบิดหรือไหม้ โดย PowerBank หรือแบตเตอรี่สำรอง เป็นอุปกรณ์ในการชาร์จสมาร์ตโฟนหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้แบตเตอรี่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากสามารถชาร์จที่ไหนก็ได้ในกรณีโทรศัพท์มือถือแบตจะหมด แต่ก็ต้องใช้และจัดเก็บอย่างระมัดระวังเพราะหากชาร์จไฟและใช้ PowerBank ไม่ถูกวิธี ก็ทำให้เกิดอันตรายได้เช่นกัน วิธีใช้พาวเวอร์แบงค์ให้ปลอดภัย 1. ตรวจสอบให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอย่างปลอดภัย สังเกตแบตเตอรี่สํารองต้องไม่บวมหรือ มีรอยปริ และไม่มีความร้อนสูง สามารถกักเก็บประจุไฟฟ้าได้ตามปกติ 2. ไม่ใช้แบตเตอรี่สํารองที่เสื่อมสภาพ โดยทั่วไปแบตเตอรี่สํารองมีอายุการใช้งานประมาณ 2 ปี 3. ไม่ใช้งานสมาร์ตโฟน ระหว่างชาร์จไฟแบตเตอรี่สํารอง เพราะแบตเตอรี่สํารองจะทํางานหนักจนทำให้เกิดความร้อนสูง และอาจระเบิดได้ 4. ไม่วางแบตเตอรี่สํารอง ไว้ใกล้แหล่งความร้อนสูง เช่น เตาไฟฟ้า เตาไมโครเวฟ ไว้ในรถที่จอดกลางแจ้ง วางไว้กลางแดด เพราะจะทําให้ แบตเตอรี่สํารองระเบิด ก่อให้เกิดอันตรายได้ 5. หลีกเลี่ยงการทําให้แบตเตอรี่สํารองเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เช่น ทำแบตเตอรี่สำรองตกกระแทกพื้น…
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว