เอาล่ะสิ… 1.7 ล้านคนข้อมูลส่วนตัวรั่ว หลังแอพพ์หาคู่ยอดนิยมของญี่ปุ่น “ถูกแฮกข้อมูล”!!!

Loading

  เอเอฟพี รายงานว่า บริษัท Net Marketing Co ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นหาคู่โอมิไอ (Omiai) ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นหาคู่ยอดนิยมของญี่ปุ่น ออกมาเตือนว่า มีข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการราว 1.7 ล้านรายถูกแฮก โดยบริษัทตรวจพบการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่เก็บข้อมูลสมาชิก “เรารับทราบมาว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่ข้อมูลส่วนตัวของสมาชิกบางรายมีการรั่วไหลออกไป เนื่องจากการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตดังกล่าว “บริษัทกล่าวในแถลงการณ์ ซึ่งระบุว่ารูปถ่ายในใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ และรูปถ่ายในหนังสือเดินทางที่บรรดาสมาชิกถูกขอให้ส่งเพื่อตรวจสอบอายุเป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลส่วนตัวที่ได้รับความเสียหายที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 20-26 เมษายน อย่างไรก็ตามสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิต ไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีระบบประมวลผลแยกกัน ผ่านสถาบันทางการเงิน เอเอฟพี รายงานว่า แถลงการณ์ของบริษัท Net Marketing Co ที่มีออกมาเมื่อวันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคมส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทตกลง 19.34 % อนึ่ง โอมิไอ (Omiai) มีความหมายในภาษาญี่ปุ่นหมายถึงการจับคู่ เป็นหนึ่งในแอพพ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น โดยเน้นความสัมพันธ์ที่จริงจัง และจากข้อมูลเมื่อเดือนเมษายนพบว่ามีสมาชิกราว 6.89 ล้านคน   ——————————————————————————————————————————————– ที่มา : มติชนออนไลน์     / วันที่เผยแพร่ …

วิธีตั้งค่าไอโฟน ไม่ให้แอปติดตาม เก็บข้อมูล เพื่อโฆษณา

Loading

วิธีตั้งค่าไอโฟน ไม่ให้แอปติดตาม เก็บข้อมูล เพื่อนำเสนอโฆษณา ข้อเสนอพิเศษ หรือแอบตามเพื่อเอาข้อมูลส่วนตัวของเรานำไปขายต่อ ซึ่งหลายท่านคงเคยเห็นการโทรเข้ามาแบบคนไม่รู้จักเช่น บริษัทขายประกัน หรือ SMS โฆษณาเป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่จะได้ข้อมูลนี้มาจากแอปที่ติดตั้งบนสมาร์ทโฟนนั่นเอง ตอนนี้ Apple ได้อัปเดต iOS 14.5 พร้อมฟีเจอร์ใหม่ App Tracking Transparency หรือ ความโปร่งใสของแอพ ในการติดตามข้อมูลผู้ใช้ทั้งบนแอพและเว็บไซต์ เพื่อปกป้องข้อมูลความเป็นส่วนตัวของเรา ไม่ให้แอปติดตาม เก็บข้อมูลนำไปใช้ในการโฆษณานั่นเอง มาดูขั้นตอนการตั้งค่ากัน   วิธีตั้งค่าไอโฟน ไม่ให้แอปติดตาม เก็บข้อมูล เพื่อนำมาใช้ในการโฆษณา     เข้าไปที่แอป การตั้งค่า     เลือกที่ ความเป็นส่วนตัว >> แล้วเลือกที่ ติดตาม     จะเห็นรายชื่อที่ขอติดตามคุณอยู่ และบางแอปที่คุณอนุญาตให้แอปติดตามคุณได้ ซึ่งคุณสามารถเปิด -ปิด การติดตามให้แอปตามเราตามต้องการ     แต่ถ้าไม่ต้องการให้แอปติดตามเก็บข้อมูลเราเลยละก็ แตะสวิตเดียวที่…

รัฐบาลจีนฟัน 33 แอพละเมิดกฎเก็บข้อมูลส่วนตัวลูกค้า

Loading

  33 แอพพลิเคชั่นในจีน รวมทั้งบริษัทในเครือ Baidu และ Tencent ละเมิดกฎการเก็บข้อมูลส่วนตัวลูกค้า หน่วยงานบริหารไซเบอร์สเปซของจีน (CAC) ระบุว่า พบ 33 แอพพลิเคชัน รวมทั้งแอพพลิเคชันให้บริการซอฟท์แวร์นำทางของบริษัท Baidu และTencent สองบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี ละเมิดกฎของทางการ โดยส่วนใหญ่เก็บข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าที่ไม่เกี่ยวข้องกับการให้บริการของตัวเอง จากการตรวจสอบแอพพลิเคชันที่เป็นที่นิยมของชาวจีนของ CAC ยังพบว่าแอพพลิเคชันเหล่านี้เก็บข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าโดยไม่ได้รับความยินยอม และยังพยายามโน้มน้าวให้ลูกค้าอนุญาตให้แอพพลิเคชันเข้าถึงรายชื่อผู้ติดต่อในสมาร์ทโฟน หลังจากนี้ ผู้ให้บริการแอพพลิเคชันดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องภายใน 10 วันทำการ มิเช่นนั้นจะถูกลงโทษ แต่ CAC ไม่ได้ระบุรายละเอียดเพิ่มเติม เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา CAC ออกกฎห้ามผู้ให้บริการแอพพลิเคชันปฏิเสธไม่ให้บริการพื้นฐานกับลูกค้าที่ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวที่ไม่จำเป็นซึ่งมีผลบังคับใช้วันนี้ (1 พ.ค.) และยืนยันว่าจะปกป้องสิทธิของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ ทางการจีนเริ่มเข้ามาควบคุมบริษัทอินเทอร์เน็ตหลังจากบริษัทเหล่านี้มีอิทธิพลกับชีวิตชาวจีนในแทบจะทุกด้าน ทั้งยังครอบครองข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าจำนวนมหาศาลจากการให้บริการออนไลน์ อาทิ แอพพลิเคชันช็อปปิ้งออนไลน์ บริการเรียกรถสาธารณะ เป็นต้น AFP PHOTO / FILES / FRED DUFOUR   ——————————————————————————————————————————————————————…

ฟังชัดๆ ไฉน พ.ต.ท.เต้นในติ๊กต๊อกโดนตั้งกก.สอบ จเรตำรวจฯชี้ฝ่าฝืนข้อห้ามเล่นโซเชียลที่ 9

Loading

  เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) กล่าวถึงกรณีปรากฏคลิป ตำรวจแต่งเครื่องแบบเต้นล้อเลียนนักร้องประเทศเพื่อนบ้าน เผยแพร่ปรากฏทางสื่อแขนงต่างๆ จนเป็นที่วิจารณ์ถึงความเหมาะสมจากสังคม ว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร ได้สั่งการให้ จตช. ติดตามดำเนินการกรณีดังกล่าว โดยเบื้องต้น ทราบว่า ตำรวจดังกล่าวคือ พ.ต.ท.อรรคพล ยี่เกาะ สว.กก.สส.ภ.จว.อุดรธานี แต่งกายเครื่องแบบ พ.ต.ท. ติดห่วงโซ่คล้องจมูก เต้นเลียนแบบเพลงนักร้องประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังเป็นกระแส เผยแพร่ทางแอพลิเคชั่น และสื่อแขนงต่างๆ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม และตลกขบขัน ซึ่งการกระทำดังกล่าว เป็นการฝ่าฝืนข้อสั่งการ ทั้งๆ ที่ ผบ.ตร. และ จตช. เพิ่งสั่งการในที่ประชุมบริหาร ตร. เมื่อเดือน มีนาคม 2564 และ ผบ.ตร มีหนังสือ เมื่อ 2 เมษายน 2564 สั่งการกำชับทุกหน่วยให้ชี้แจง กำชับ…

‘เกาหลีใต้’ จ่อฟ้องเฟซบุ๊ค ปล่อยข้อมูลส่วนตัวรั่ว

Loading

    กลุ่มผู้ใช้งานเฟซบุ๊ค ในเกาหลีใต้ เตรียมรวมตัวฟ้อง ฐานปล่อยให้ข้อมูลผู้ใช้งานรั่วไหลไปยังบริษัทอื่น ๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต บริษัทกฎหมายจีฮยางและศูนย์ข้อมูลจินโบ ซึ่งเป็นหน่วยงานให้ความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล อยู่ในระหว่างรวบรวมข้อมูลจากผู้ร้องทุกข์ที่ต้องการฟ้องเฟซบุ๊คจนถึงสิ้นเดือน พ.ค. เมื่อเดือน พ.ย. 2563 คณะกรรมการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลแห่งเกาหลีใต้ (PIPC) ระบุว่า เฟซบุ๊คได้ละเมิดกฎหมายของเกาหลีใต้ด้วยการส่งมอบข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานอย่างน้อย 3.3 ล้านคน จากจำนวนผู้ใช้งานทั้งสิ้น 18 ล้านคนให้กับบุคคลที่ 3 ตั้งแต่เดือนพ.ค. 2555 ถึงเดือนมิ.ย. 2561 ข้อมูลดังกล่าวประกอบไปด้วยประวัติการศึกษา อาชีพ สถานที่เกิด และสถานภาพความสัมพันธ์ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับเพื่อนของผู้ใช้งาน ซึ่งทางหน่วยงานได้สั่งปรับเฟซบุ๊คเป็นเงิน 6.7 พันล้านวอน (6 ล้านดอลลาร์) และยื่นคำฟ้องคดีอาญาฐานปล่อยให้ข้อมูลรั่วไหล บริษัทกฎหมายจีฮยางระบุว่า “สิทธิในการตัดสินใจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลควรที่จะต้องมีกฎหมายคุ้มครองอย่างเข้มงวด ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของสิทธิมนุษยชน” พร้อมกล่าวว่า การกระทำของเฟซบุ๊คถือเป็นปัญหาที่ร้ายแรง รายงานระบุว่า มีผู้ใช้งานเฟซบุ๊คกว่า 500 ล้านคนทั่วโลกที่ประสบปัญหาดังกล่าว ส่งผลให้ประชาชนตั้งคำถามถึงระบบการรักษาความปลอดภัยทางข้อมูลของเฟซบุ๊ค   ——————————————————————————————————————————————– ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ …

ช่องโหว่ Zoom ทำให้คุณตกอยู่ในความเสี่ยง แฮกเกอร์แฝงตัว ร่วมประชุมออนไลน์

Loading

  ความปลอดภัยเป็นปัญหาใหญ่ของแพลตฟอร์มประชุมออนไลน์ตัวดัง อย่าง Zoom ที่อาจเป็นต้นเหตุทำให้อุปกรณ์ของคุณ เสี่ยงต่อการถูกแฮกเกอร์โจมตี ในการประชุมด้านความปลอดภัยของ Pwn2Own ได้เปิดเผยช่องโหว่ Zero-day ของ Zoom ในเวอร์ชั่นเดสก์ท็อป ซึ่งช่องโหว่ที่เกิดขึ้นนั้นสามารถเปิดโอกาสให้แฮกเกอร์รันโค้ดแบบสุ่มบนอุปกรณ์ของผู้ใช้ผ่านการโทร และร้ายแรงถึงขนาดท่ีเข้ายึดระบบทั้งหมดได้ สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือแฮกเกอร์สามารถควบคุมคอมพิวเตอร์จากระยะไกลได้ ขณะที่กำลังใช้งาน Zoom โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องคลิกลิงก์หรือเปิดไฟล์แนบใด ๆ การควบคุมที่ว่าทำได้ถึงขั้นเปิดเว็บแคม ไมโครโฟน อ่านอีเมลของผู้ใช้ รวมถึงดาวน์โหลดประวัติการท่องเว็บของเหยื่อ ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนตัวที่ไม่ต้องการเปิดเผยให้ใครรู้ ในขณะที่ Zoom ยืนยันว่าได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอย่างมาก และกำลังเดินหน้าเพื่อแก้ปัญหานี้ โดยการโจมตีที่พบมาจากผู้แอบแฝงเข้าร่วมประชุม ซึ่งป้องกันได้จากฝั่งผู้ใช้งาน โดย Zoom Chat , Zoom Meetings และ Zoom Video จะไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาที่เกิดขึ้น หรือหากพบความผิดปกติ สามารถส่งรายงานไปยังศูนย์ความเชื่อถือของ Zoom ได้ อย่างไรก็ตาม Zoom ไม่ใช่ผู้ให้บริการประชุมออนไลน์ที่มีช่องโหว่เพียงรายเดียว เนื่องจากที่ผ่านมามีแฮกเกอร์รายอื่นอ้างสิทธิ์ 200,000 ดอลลาร์ จากการเปิดเผยช่องโหว่ใน Microsoft Teams เช่นกัน…