แพนทากอน สหรัฐฯ ปฏิเสธ “เครื่องโดรนถูกยิงตกในโซมาเลีย”

Loading

     แพนทากอน สหรัฐฯ ปฏิเสธการรายงานข้อมูลของเว็บไซต์ที่สนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย al-Shabab ในโซมาเลีย ที่ว่า เครื่องโดรนของสหรัฐฯ ถูกยิงตกในเขต gedo ของโซมาเลีย ซึ่งเป็นพื้นที่ในควบคุมของกลุ่ม al-Shabab เครื่องโดรนดังกล่าวบรรทุกขีปนาวุธ 6 ลูก      ทางการโซมาเลียแจ้งว่า ได้รับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นว่าพบเครื่องโดรนตกในโซมาเลีย แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นของฝ่ายใด ————————————— ที่มา : Voice of America วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2559

กลุ่มติดอาวุธอัล-ชาบาบก่อเหตุคาร์บอมบ์กลางเมืองหลวงโซมาเลีย ปลิดชีพอดีต รมต.กลาโหม

Loading

     รอยเตอร์ / เอเจนซีส์ / MGR online – กลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ “อัล-ชาบาบ” ก่อเหตุโจมตีด้วยระเบิดคาร์บอมบ์กลางกรุงโมกาดิชู เมืองหลวงของโซมาเลียในวันจันทร์ (15 ก.พ.) โดยการโจมตีในครั้งนี้ทางกลุ่มติดอาวุธสุดโต่งซึ่งมีสายสัมพันธ์เชื่อมโยงกับเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์กลุ่มนี้ยืนยันสามารถปลิดชีพของมูฮายาดิน โมฮาเหม็ด อดีตรัฐมนตรีกลาโหมของโซมาเลีย ซึ่งในปัจจุบันทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของประธานสภาผู้แทนราษฎรโซมาเลียลงได้      ชีคห์ อันบ์ดิอาซิส อาบู มูซาบ โฆษกฝ่ายปฏิบัติการทางทหารของกลุ่มติดอาวุธอัล-ชาบาบ ออกมาเปิดเผยผ่านสำนักข่าวรอยเตอร์ โดยอ้างว่าทางกลุ่มของตนอยู่เบื้องหลัง การสังหารอดีตรัฐมนตรีกลาโหมของโซมาเลียในครั้งนี้      ขณะที่ทางตำรวจโซมาเลียยืนยันว่า มูฮายาดิน โมฮาเหม็ด เสียชีวิตจากเหตุระเบิดรถยนต์ในครั้งนี้จริง แต่บุคคลนิรนามอีกรายหนึ่งซึ่งอยู่ในรถยนต์คันดังกล่าวและยังไม่มีการเปิดเผยตัวตนรอดชีวิตมาได้โดยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงใดๆ      รายงานข่าวระบุว่า มูฮายาดิน โมฮาเหม็ด เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมโซมาเลียในช่วงเวลาสั้นๆ เมื่อปี ค.ศ. 2008 ในยุครัฐบาลชุดเปลี่ยนผ่านที่มีองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ให้การหนุนหลัง และเคยร่วมรบเคียงข้างกับกองกำลังรักษาสันติภาพขององค์การสหภาพแอฟริกัน (เอยู) ในการผลักดันนักรบกลุ่มอัล-ชาบาบออกจากกรุงโมกาดิชูและเมืองสำคัญอื่นๆ ของโซมาเลียได้เป็นผลสำเร็จเมื่อปี 2011    …

โซมาเลียเผยเหตุเครื่องบินทะลุเป็น “รูโหว่” เกิดจาก “ระเบิด” ที่ซ่อนในคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป

Loading

     เอเอฟพี – หน่วยข่าวกรองโซมาเลียซึ่งทำหน้าที่สอบสวนกรณีเครื่องบินโดยสาร ดาลโล แอร์ไลน์ส ทะลุเป็นรูโหว่ขณะขึ้นบินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เผยภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งแสดงให้เห็นว่า มีกลุ่มบุคคลต้องสงสัยมอบคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปซึ่งภายในซุกซ่อน “ระเบิด” ให้แก่ผู้โดยสารคนหนึ่งบนเที่ยวบินนี้      เหตุระเบิดซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่แล้ว (2 ก.พ.) ระหว่างที่เครื่องบินแอร์บัสลำนี้กำลังเดินทางจากสนามบินนานาชาติกรุงโมกาดิชูไปยังจิบูตี ส่งผลให้ลำตัวเครื่องบินด้านขวาใกล้กับปีกเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่ และมีผู้โดยสารเสียชีวิต 1 ราย แต่กัปตันยังสามารถนำเครื่องกลับมาลงจอดฉุกเฉินที่กรุงโมกาดิชูได้อย่างปลอดภัย      สำนักงานความปลอดภัยและข่าวกรองแห่งชาติโซมาเลีย (NISA) แถลงว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ (7) แสดงให้เห็นว่า ผู้โดยสารซึ่งเป็น “มือระเบิด” รับคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปมาจากชาย 2 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นสวมเสื้อแจ็กเก็ตคล้ายหน่วยรักษาความปลอดภัย      “เรากำลังสอบปากคำผู้ต้องสงสัยราว 15 คนที่ถูกจับกุมเพราะอาจมีส่วนพัวพันกับคดีนี้” เจ้าหน้าที่ข่าวกรองโซมาเลียซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี      “จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ระเบิดถูกซ่อนมาในคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปที่ผู้โดยสารคนหนึ่งพกขึ้นเครื่อง… กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพกิจกรรมบางอย่างได้ ซึ่งทำให้เชื่อว่าเหตุการณ์นี้น่าจะมีผู้ร่วมวางแผนหลายคน ซึ่งส่วนใหญ่ถูกจับกุมได้แล้ว และเจ้าหน้าที่กำลังสอบปากคำพวกเขาอยู่”      เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า…

กรณีเครื่องบินของโซมาเลีย พบชิ้นส่วนที่คาดว่าจะเป็นระเบิดแต่ยังไม่สามารถยืนยันได้

Loading

     รายงานข่าวจากดูไบ สหรัฐอาหรับ เมื่อ 4 ก.พ.59 แจ้งถึงกรณีเกิดการระเบิดในเครื่องบินของสายการบิน Daallo ขณะทำการบินขึ้นจากท่าอากาศยานที่กรุงโมกาดิสชู โซมาเลีย ว่าพบสิ่งที่อาจเป็นชิ้นส่วนของระเบิด แต่ไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจนว่าเป็นวัตถุระเบิด     ภายหลังการหารือของคณะรัฐมนตรีในเรื่องนี้ รองนายกรัฐมนตรีโซมาเลีย แถลงว่า มาตรการการรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานที่โมกาดิสชูมีความรัดกุมเพียงพอที่จะต่อต้านการคุกคาม จำนวนผู้โดยสารมี 70 คนจากทั้งหมด 74 คนโอนตั๋วโดยสารมาจากสายการบินตุรกีที่ระงับการบินไป 2 เที่ยว เนื่องจากสภาพอากาศไม่พร้อมบิน แต่ทางสายการบิน Daallo อ้างว่า ทางตุรกีได้รับข้อมูลแจ้งเตือนล่วงหน้า ——————————– ที่มา : Standard-Times / Feb 4, 2016

ครม. ตูนิเซียประชุมฉุกเฉิน หาทางคลี่คลายปัญหา หลังการประท้วงตกงานทวีความรุนแรง

Loading

     รัฐบาลตูนิเซียประชุมฉุกเฉินในวันนี้ (23 ม.ค.) เพื่อหารือสถานการณ์ความมั่นคงในประเทศ หลังจากที่เมื่อคืนได้ประกาศมาตรการห้ามออกนอกบ้านยามวิกาลทั่วประเทศ เนื่องจากในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา การประท้วงเพื่อกดดันให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาการว่างงานได้ทวีความรุนแรง มีการปะทะกับเจ้าหน้า บุกชิงทรัพย์และทำลายทรัพย์สิน      ในการแถลงทางโทรทัศน์เมื่อวาน (22 ม.ค.) ประธานาธิบดีเบจิ คาอิด เอสเซบซี ยอมรับว่า เข้าใจความรู้สึกคับข้องใจของประชาชนในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ แต่เขาชี้มีกลุ่มคนร้ายฉวยโอกาสจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งกลุ่มที่เรียกตัวเองว่ารัฐอิสลาม จากลิเบียที่เป็นประเทศเพื่อนบ้าน หาจังหวะเพื่อแทรกซึมเข้ามาสร้างสถานการณ์ในตูนิเซีย      ก่อนหน้านี้ ผู้นำตูนิเซียประกาศว่าจะมีการสร้างงานเพิ่มอีกหลายพันตำแหน่ง รวมทั้งสอบสวนเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน      สถานการณ์การว่างงานในตูนิเซียเลวร้ายลง นับตั้งแต่เกิดการปฏิวัติอาหรับสปริงเมื่อปี 2554 ที่เกิดขึ้นในตูนิเซียเป็นประเทศแรก ซึ่งมีหลายฝ่ายกล่าวชื่นชมว่าเป็นตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จที่สุด แต่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รัฐบาลล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาเพื่อลดช่องว่างในสังคม ความยากจนและภัยคุกคามจากกลุ่มที่มีแนวคิดสุดโต่ง ———————— ที่มา : BBC Thailand / 24 มกราคม 2559 Link : https://www.facebook.com/BBCThai/videos/1732295066991526/?pnref=story

ตูนิเซียป่วนเกิดการจลาจลในหลายเมือง

Loading

     ผู้ประท้วงที่ตกงานในตูนิเซียปะทะตำรวจเป็นวันที่3จนท.เสียชีวิต1รายและมีผู้บาดเจ็บเกือบร้อยคนอีกทั้งลุกลามกลายเป็นการจลาจลในหลายเมือง      วันนี้ (22ม.ค.59) คนหนุ่มสาวที่ตกงานในตูนิเซียชุมนุมประท้วงอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ล่าสุด การประท้วงที่เริ่มขึ้นตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมาในเมืองแคสเซอรีน ทางเหนือของตูนิเซีย ได้ลุกลามไปถึงกรุงตูนิส เมืองหลวงของตูนิเซียและอีกหลายเมือง และเกิดความรุนแรงกลายเป็นการจลาจล โดยในเมืองเฟอเรียน่า มีตำรวจเสียชีวิต 1 นาย หลังจากรถของเขาพลิกคว่ำในระหว่างการประท้วง นับเป็นผู้เสียชีวิตรายแรก หลังจากการประท้วงเริ่มขึ้นตั้งแต่ต้นสัปดาห์นี้ และนับเป็นการประท้วงรุนแรงที่สุดในรอบหลายปี      ส่วนในเมืองแคสเซอรีน ซึ่งเป็นเมืองแรกที่จุดชนวนการประท้วง ผู้ประท้วงเพิ่มจำนวนมากขึ้น จากหลายร้อยคนเป็นหลายพันคน และยังคงเกิดการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจเป็นวันที่ 3 โดยตำรวจยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ประท้วง ที่พยายามจะบุกเข้าไปในสถานที่ราชการหลายแห่ง นอกจากนี้ ยังเกิดการปะทะกันในอีกหลายเมือง เนื่องจากผู้ประท้วงพยายามจะบุกเข้าไปในที่ทำการรัฐบาล โดยในเมืองเกเบลี่ ทางใต้ของตูนิเซีย สถานีตำรวจ 1 แห่งถูกผู้ประท้วงวางเพลิง ในเมืองเคฟ ทางเหนือของประเทศ ตำรวจถึงกับต้องทิ้งป้อมหนีผู้ประท้วง ส่วนในเมืองซิดี บูซิด ผู้ประท้วงชุมนุมปิดถนนทุกสายในเมืองนี้ และในกรุงตูนิส เมืองหลวงของตูนิเซีย ผู้ประท้วงหลายร้อยคนเดินขบวนเรียกร้องขอให้รัฐบาลจัดหางานให้      ด้านกระทรวงมหาดไทยตูนิเซียแถลงว่า ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 59 นายในวันพฤหัสที่ผ่านมา ส่วนผู้ประท้วงได้รับบาดเจ็บ 40 คน ด้านนายกรัฐมนตรีฮาบิบ เอสซิดของตูนิเซีย จะเดินทางกลับก่อนกำหนด จากเมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเขาได้ไปเข้าร่วมประชุมเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรั่ม ซึ่งกำลังจัดขึ้นที่นั่น และจะลงพื้นที่เยือนเมืองแคสเซอรีนในวันเสาร์นี้      ทั้งนี้ ปัญหาการว่างงานเป็นปัญหาใหญ่ของตูนิเซีย ผู้ที่ออกมาประท้วงส่วนใหญ่ในครั้งนี้เป็นคนหนุ่มสาวที่ตกงาน ทั้งๆ ที่มีวุฒิปริญญา เนื่องจากปัญหาการว่างงานในตูนิเซียเข้าขั้นวิกฤติ โดยมากกว่า 1 ใน 3 ของคนหนุ่มสาวต้องตกงาน และร้อยละ 62 ของบัณฑิตตูนิเซียไม่มีงานทำ —————————– ที่มา : TNN Thailand วันที่ 22 ม.ค. 59, 12.58 น. Link : http://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=89445&t=news