อดีต จนท.เพนตากอน เตือน ‘กูเกิ้ล’ กำลังก้าวเข้าสู่ ‘ภาวะอันตรายด้านศีลธรรม’

Loading

FILE – The logo of Google is pictured during the Viva Tech startup and technology summit in Paris, France, May 25, 2018. อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหม หรือ เพนตากอน ตั้งคำถามด้านศีลธรรมกับบริษัทกูเกิ้ล (Google) ในการไม่ต่อสัญญากับโครงการพัฒนาโดรนตรวจจับกับเพนตากอน นายบ็อบ เวิร์ค อดีตรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บอกว่า พนักงานกูเกิลกำลังเดินหน้าเข้าสู่ภาวะอันตรายด้านศีลธรรมเสียเอง หลังจากกูเกิลประกาศเมื่อต้นเดือนมิถุนายนว่า จะไม่ต่อสัญญากับเพนตากอน ในโครงการ Project Maven ที่ใช้ศักยภาพของปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ในการตรวจจับและระบุเอกลักษณ์จากภาพที่บันทึกได้จากโดรน พร้อมกันนี้ นายเวิร์ค มองว่า ท่าทีของกูเกิ้ลแฝงเจตนาอื่น เนื่องจากตอนนี้กูเกิ้ลมีโครงการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ในประเทศอื่น รวมทั้งจีน ทั้งนี้ การถอนตัวจากโครงการ Project Maven ที่กูเกิ้ลทำสัญญาพัฒนาโครงการกับเพนากอนมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2014-2017…

ตำรวจกัมพูชาถูกสั่งพักงาน หลังถ่ายรูปเพื่อนตำรวจที่หลับขณะร่วมพิธีกรรมของทางการ

Loading

สื่อพนมเปญโพสต์รายงานว่ามีการสั่งพักงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ประจำจังหวัดกัมปงจาม ประเทศกัมพูชา หลังจากที่พวกเขาถ่ายภาพตำรวจคนอื่นๆ 3 นาย ที่นอนหลับในช่วงที่มีพิธีกรรมฉลองครบรอบ 11 ปี วันทหารผ่านศึกกัมพูชา ที่มีฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเป็นประธาน ซึ่งตำรวจอีก 3 นายที่นอนหลับในรูปก็ถูกลงโทษด้วยเช่นกัน 9 มิ.ย. 2561 พิธีกรรมครบรอบ 11 ปีวันทหารผ่านศึกกัมพูชามีขึ้นในวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา มีภาพนายตำรวจ 3 นาย นอนหลับในช่วงที่เข้าร่วมพิธีได้รับการเผยแพร่ไปทั่วโซเชียลมีเดียจนมีการวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนในวงกว้าง  ผู้ที่ถ่ายภาพตำรวจหลับในพิธีคือหัวหน้าตำรวจท้องถิ่นที่ชื่อ เกง สเรง เขาบอกว่าเขากำลังถ่ายภาพพิธีกรรมแล้วบังเอิญไปถ่ายติดภาพของเพื่อนตำรวจที่กำลังหลับอยู่พอดี โดยที่รูปดังกล่าวนี้ถ่ายในช่วงก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาถึงในพิธี สเรงบอกว่าภาพนี้เผยแพร่ออกไปเรื่อยๆ หลังจากที่เขาส่งรูปนี้ให้เพื่อนเขาดู เพื่อนของเขาก็ส่งต่อรูปนี้ไปให้กับกรมป้องกันและปราบปรามยาเสพติดผ่านทางกลุ่มในแอพพลิเคชั่น WhatsApp สเรงบอกว่าเขาถ่ายรูปนี้ทำไปเพราะความรักเพื่อน อยากหยอกล้อเล่นๆ กับเพื่อน แต่ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนแชร์รูปนี้ออกไปในเฟสบุ๊ค สเรงกล่าวอีกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจให้รูปนี้กลายเป็นไวรัลเผยแพร่ไปทั่วในโซเชียลมีเดียแต่เขาก็ยอมรับการลงโทษด้วยการถูกสั่งพักงาน แต่ถ้าการลงโทษนั้นเป็นการปลดออกจากตำแหน่งนำคงเสียใจไปตลอดชีวิตเพราะเขา “ทำงานช่วยเหลือประชาชน” มาตลอด 31 ปี นอกจากตำรวจที่ถ่ายภาพและตำรวจที่เผยแพร่รูปภาพทางอินเทอร์เน็ตจะถูกลงโทษสั่งพักงานแล้ว ตำรวจทั้ง 3 นายที่อยู่ในภาพก็ถูกลงโทษด้วย โดยมีจดหมายคำสั่งจากผู้กำกับการตำรวจจังหวัดกัมปงจาม ลงวันที่…

ทำถึงขั้นนี้! แอลจีเรียสั่งตัดเน็ตทั่วประเทศกันเด็กโกงข้อสอบ

Loading

  บีบีซีรายงานว่า แอลจีเรียได้สั่งตัดอินเตอร์เน็ตทั่วประเทศในระหว่างการสอบของนักเรียนชั้นมัธยมปลายเพื่อแก้ปัญหาการโกง ข่าวระบุว่า การให้บริการอินเตอร์เน็ตทั้งทางอุปกรณ์เคลื่อนที่และสายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงจะถูกตัดเป็นเวลา 1 ชั่วโมงหลังจากที่การทดสอบความรู้พื้นฐานของโรงเรียนมัธยมทั่วประเทศเริ่มต้นขึ้นเพื่อยุติการรั่วไหล โดยการตัดระบบอินเตอร์เน็ตจะดำเนินไปตลอดฤดูการสอบระหว่างวันที่ 20-25 มิถุนายนนี้ มาตรการนี้มีขึ้นหลังจากมีการโกงข้อสอบทั่วประเทศเมื่อปี 2559 ซึ่งมีหลายคำถามรั่วไหลออกมาทางออนไลน์ทั้งก่อนและระหว่างการสอบ และด้วยเหตุผลนี้ทำให้ทางการร้องขอให้ผู้บริการอินเตอร์เน็ตปิดการเข้าถึงโซเชียลมีเดียเมื่อปีที่แล้ว แต่ดูเหมือนมาตรการแบบสมัครใจนั้นไม่เพียงพอ นางนูเรีย เบงกาบริต รัฐมนตรีศึกษาแอลจีเรียเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์อันนาฮาร์ของแอลจีเรียว่า จะมีการบล็อคการเข้าถึงเฟซบุ๊กทั่วประเทศตลอดช่วงเวลาดังกล่าว นางเบงกาบริตกล่าวว่า ในขณะที่ทางการรู้สึก “ไม่สะดวกสบาย” กับการตัดสินใจนี้ แต่ก็รู้สึกว่าไม่ควรอยู่นิ่งเฉยต่อหน้าเหตุการณ์ที่อาจมีการรั่วไหลของข้อสอบได้ นอกจากนี้ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ทั้งสำหรับเด็กนักเรียนและเจ้าหน้าที่โรงเรียน ถูกสั่งห้ามนำเข้ามายังอาคารสถานที่สอบ 2,000 แห่งทั่วประเทศ โดยจะมีการติดตั้งเครื่องตรวจจับโลหะไว้ที่ประตูทางเข้า นางเบงกาบริตยังกล่าวด้วยว่า มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดและเครื่องรบกวนสัญญาณโทรศัพท์มือถือไว้ที่โรงพิมพ์ข้อสอบทุกแห่ง ทั้งนี้ นักเรียนมากกว่า 700,000 คนทั่วประเทศแอลจีเรียจะเข้าสอบเพื่อรับประกาศนียบัตรระดับมัธยมปลายในสัปดาห์หน้า โดยคาดว่าจะรู้ผลในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้ ————————————————————————————————————————————————— ที่มา : มติชนออนไลน์      /   วันที่  21 มิถุนายน 2561 ลิงก์ : https://www.matichon.co.th/foreign/news_1008795