ฮือฮา!! รัสเซียสั่งปิด “สนามบินเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก” ด่วน เจอโดรนโจมตีหนักบริเวณพรมแดนและห่างจากมอสโกแค่ 60 ไมล์ เครื่องบินสอดแนมสุดล้ำของปูตินถูกทำลายคาฐานในเบลารุส

Loading

    เอเจนซีส์ – สนามบินปูลโกโว( Pulkovo Airport )ในเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์กของรัสเซียถูกสั่งปิดอย่างเร่งด่วน วันนี้(28 ก.พ)หลังพบวัตถุปริศนาบินกลางอากาศ เจ้าหน้าที่ส่งเครื่องบินรบขับไล่ขึ้นดู ขณะบริเวณพรมแดนติดยูเครนโดนโดรนโจมตีอย่างหนักตั้งแต่คืนวันจันทร์(27 ก.พ) มาจนถึงเช้าวันอังคาร(28 ก.พ) พบโดรนสังหารตกห่างจากกรุงมอสโกไปแค่ 60 ไมล์ ขณะที่กลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลเบลารุสอ้าง ใช้โดรนวันอาทิตย์(26 ก.พ)โจมตีเครื่องบินสอดแนมสุดล้ำมูลค่า 274 ล้านปอนด์ของประธานาธิบดีปูตินเสียหายคาฐานทัพอากาศใกล้กรุงมินสค์   เดลีเอ็กซเพรสของอังกฤษรายงานวันนี้(28 ก.พ)ว่า มีรายงานว่าสนามบินปูลโกโว( Pulkovo Airport )ในเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์กของรัสเซียถูกเจ้าหน้าที่รัสเซียสั่งปิดอย่างเร่งด่วนวันอังคาร(28) และเป็นการปิดน่านฟ้าสนามบินในรัศมี 200 กิโลเมตร อ้างอิงจาก REN TV   และสถานีโทรทัศน์รายงานอ้างว่า มีการส่งเครื่องบินขับไล่ขึ้นฟ้าทันทีเพื่อตรวจสอบหลังมีรายงานพบวัตถุต้องสงสัยทางอากาศ เกิดขึ้นท่ามกลางรัสเซียพบการโจมตีอย่างหนักจากโดรนที่คาดว่าเคียฟอาจจะส่งมา   ดิอิฟนิงแสตนดาร์ดรายงานว่า ความเสียหายฝั่งรัสเซียเริ่มมาตั้งแต่สุดสัปดาห์เมื่อนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลเบลารุสเปิดเผยวันอาทิตย์(26)อ้างว่า พวกเขาใช้โดรนโจมตีทำลายเครื่องบินจารกรรมสุดล้ำของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ที่สนนราคาตกที่ 274 ล้านปอนด์ถูกทำลายคาฐานทัพอากาศรัสเซียใกล้กรุงมินสค์   อาลิอัคซานดร์ อาซารอฟ (Aliaksandr Azarov) ผู้นำกลุ่ม…

สเปซเอ็กซ์ห้ามยูเครนใช้สัญญาณเน็ตดาวเทียม ‘สตาร์ลิงก์’ ควบคุมโดรน

Loading

    บริษัท สเปซเอ็กซ์ จำกัดขีดความสามารถของยูเครนในการใช้บริการอินเทอร์เน็ตดาวเทียมของพวกเขาเพื่อการทหาร หลังจากมีรายงานว่า เคียฟใช้บริการดังกล่าวในการควบคุมโดรน   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ในช่วงเริ่มต้นของสงคราม ยูเครนได้รับจานดาวเทียม ‘สตาร์ลิงก์’ (Starlink) หลายพันเครื่อง เพื่อเชื่อมต่อกับดาวเทียมช่วยให้ชาวยูเครนสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ต่อไป แต่ในเวลาต่อมามีรายงานว่า ยูเครนใช้เทคโนโลยีดังกล่าวในการระบุตำแหน่งของกองทัพรัสเซีย ซึ่งละเมิดนโยบายของสเปซเอ็กซ์   นาง เกว็น ช็อตเวลล์ ประธานบริษัท สเปซเอ็กซ์ พูดถึงรายงานที่ว่ายูเครนกำลังใช้สตาร์ลิงก์เพื่อควบคุมโดรนว่า เป็นเรื่องยอมรับได้หากกองทัพยูเครนใช้เทคโนโลยีดาวเทียมนี้เพื่อการสื่อสาร ไม่ได้ใช้มันเพื่อการโจมตี ทางบริษัทจึงใช้มาตรการเพื่อจำกัดความสามารถของกองทัพยูเครนในการใช้สตาร์ลิงก์เพื่อการโจมตี โดยไม่ระบุรายละเอียดเพิ่มเติม   ทั้งนี้ โดรนมีส่วนสำคัญมากในสงครามรัสเซียยูเครน โดยเคียฟใช้มันในการค้นหาตำแหน่งของกองทัพรัสเซีย ทิ้งระเบิด และตอบโต้การโจมตีด้วยโดรนของรัสเซีย   นายมิคไฮโล โพโดลียัค ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครนออกมาพูดตอบโต้การตัดสินใจของสเปซเอ็กซ์ว่า บริษัททั้งหลายมีสิทธิ์เลือกข้างที่พวกเขาต้องการจะอยู่ พวกเขาสามารถร่วมกับยูเครนและสิทธิ์เพื่อเสรีภาพ หรือเลือกรัสเซียกับสิทธิ์ในการเข่นฆ่าและยึดดินแดน         อ้างอิง  BBC         ——————————————————————————————————————————————————————– ที่มา : …

ไต้หวันเร่งพัฒนาโดรน ถอดบทเรียนจากศึกยูเครน-เสริมเขี้ยวเล็บกองทัพ

Loading

    ไต้หวันเร่งพัฒนาโดรน – วันที่ 7 ก.พ. รอยเตอร์รายงานว่า ไต้หวันเตรียมเร่งพัฒนาเทคโนโลยีโดรนและถอดบทเรียนจากสงครามรัสเซียรุกรานยูเครน ท่ามกลางภัยคุกคามจากทางการจีนที่มองว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน และยังคงเดินหน้ากดดันไต้หวันในเวทีโลก   ความเคลื่อนไหวของไต้หวันเกิดขึ้นหลัง “อากาศยานไร้คนขับ” (Unmanned Aerial Vehicle – UAV) หรือยูเอวี กลายเป็นหนึ่งในอาวุธที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในสงครามดังกล่าว โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยูเครน ถึงขั้นระบุไว้ว่า เป็นอาวุธแห่งสงครามในอนาคต     ไต้หวันซึ่งกำลังเผชิญภัยคุกคามทางทหารจากทางการจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้นเคยเปิดเผยว่า จับตาสงครามรัสเซียรุกรานยูเครนอย่างใกล้ชิดเพื่อนำมาถอดบทเรียนไว้รับมือหากจีนตัดสินใจส่งกองทัพเข้ารุกรานเพื่อยึดครองเกาะไต้หวัน   ซุน หลี่ฟาง โฆษกกระทรวงกลาโหมไต้หวัน กล่าวว่า ไต้หวันอยู่ระหว่างการเร่งพัฒนาเทคโนโลยีโดรน รวมถึงเทคโนโลยีการผลิตโดรน   “การเร่งวิจัย พัฒนา และกระบวนการผลิตนี้เพื่อไว้ตอบโต้ภัยคุกคามจากศัตรูและนำบทเรียนการสู้รบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนมาใช้ในยุทธการรบแบบอสมมาตร์ (การรบระหว่างคู่ต่อสู้ที่มีระดับแสนยานุภาพห่างชั้นกันอย่างมหาศาล) ผ่านโดรนของไต้หวัน” นายซุน ระบุ   โฆษกกระทรวงกลาโหมไต้หวัน ระบุด้วยว่า โครงการดังกล่าวมี จุงชาน สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งไต้หวันเป็นหัวหอก และจะมีบรรดาบริษัทเอกชนหลายแห่งเข้าร่วม   ด้านนายจื้อ หลี่ผิง ผู้อำนวยการแผนกวิจัยระบบอากาศยานของสถาบันข้างต้น ยืนยันว่า…

นักวิทยาศาสตร์สร้างโดรนจิ๋วระบบ ‘เอคโค่’ ช่วยค้นหาและกู้ภัยในพื้นที่ห่างไกลได้

Loading

  นักวิทยาศาสตร์และหุ่นยนต์ศาสตร์ได้ร่วมกันพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ สำหรับเครื่องจักรกลโดยอ้างอิงจากการทำงานของธรรมชาติมากขึ้น โดยล่าสุดนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโทรอนโต ประเทศแคนาดา ได้นำแรงบันดาลใจการที่ค้างคาวสามารถระบุตำแหน่งวัตถุด้วยเสียงสะท้อน หรือที่เรียกว่า Echolocation มาใช้ในการออกแบบหุ่นยนต์โดรนขนาดเล็กที่นำระบบเสียงสะท้อนนี้มาใช้ในการนำทางด้วยตนเองอัตโนมัติได้อย่างน่าชื่นชม   ข้อดีของการพัฒนาโดรนในรูปแบบนี้คือ ไม่จำเป็นต้องใช้ฮาร์ดแวร์หรือชิ้นส่วนราคาแพง หรือมีขนาดใหญ่และหนักจนเกินไป โดยทีมนักวิจัยได้ใช้ดำเนินการติดตั้งฮาร์ดแวร์เสียง แล้วขยายการทำงานด้วยการติดตั้งไมค์และลำโพงราคาถูกไว้บนหุ่นยนต์โดรนจิ๋วขนาดเท่าฝ่ามือเท่านั้น     ระบบจะนำทางหุ่นยนต์โดรนนี้ด้วยเสียงสะท้อน หรือ Echolocation ที่ได้รับการออกแบบให้แพร่กระจายผ่านคลื่นความถี่ต่าง ๆ ได้ด้วยไมโครโฟน แล้วคอยรับเสียงสะท้อนที่ตกกระทบกับมายังหุ่นยนต์ และใช้อัลกอริทึมที่ทีมนักวิจัยสร้างขึ้นในการวิเคราะห์และสร้างแผนที่ของห้องทดสอบได้อย่างยอดเยี่ยม   ทีมนักวิทยาศาสตร์ได้กล่าวว่า ระบบที่ได้รับการคิดค้นขึ้นนี้สามารถติดตั้งในหุ่นยนต์โดรนขนาดเล็กโดยใช้ต้นทุนต่ำ และสามารถนำมาใช้ในภารกิจค้นและกู้ภัยในพื้นที่ห่างไกลหรือที่หุ่นยนต์ขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงได้ อีกทั้งยังสามารถนำมาปรับใช้ในงานอื่น ๆ ได้อีกหลายรูปแบบ   ในตอนนี้ ระบบที่พวกเขาคิดค้นขึ้นมายังมีความแม่นยำน้อยกว่าฮาร์ดแวร์ราคาแพงอย่างเซนเซอร์ GPS หรือกล้อง เป็นต้น แต่พวกเขาคาดหวังว่าจะสามารถพัฒนาเวอร์ชันใหม่ที่มีความแม่นยำมากขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้นี้     อ้างอิง engadget         ————————————————————————————————————————————————————————————————– ที่มา :         …

โดรนโจมตีโรงงานผลิตกระสุนในอิหร่าน หวังสร้างความไม่มั่นคงภายใน

Loading

    โรงงานผลิตกระสุน ทางตอนกลางของอิหร่านระเบิด ท่ามกลางความตึงเครียดเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์และการจัดหาอาวุธให้กับรัสเซียในสงครามรัสเซีย-ยูเครน   เหตุการณ์เกิดขึ้นที่เมืองอิสฟาฮาน ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนกลางของอิหร่าน เกิดแสงวาบขึ้นมาที่โรงงานผลิตอาวุธทางทหารแห่งหนึ่งของเมืองดังกล่าว โดยสื่อทางการอิหร่านรายงานว่า โรงงานดังกล่าวเป็นโรงงานผลิตกระสุน ขณะที่รัฐบาลเตหะรานเปิดเผยเมื่อวานนี้ (29 ม.ค.) ว่า เหตุระเบิดครั้งนี้ เกิดจากการโจมตีด้วยโดรนที่ไม่ทราบชื่อผู้ลงมือก่อเหตุ และยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบในทันที แต่สหรัฐฯ ชี้ว่า อิสราเอล อาจอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีในครั้งนี้     นอกจากนี้กระทรวงกลาโหมอิหร่าน ยังรายงานว่า เมื่อช่วงกลางดึกของวันเสาร์ (28 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น กองทัพอิหร่านสามารถสกัดการโจมตีด้วยโดรน 3 ลำ ซึ่งมีเป้าหมายคือ สถานที่ทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน โดยเหตุการณ์โจมตีในครั้งนี้้ได้สร้างความเสียหายต่ออาคารเล็กน้อย แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต   ขณะที่นายฮอสเซน อามีร์ อับดุลลาอิน รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านได้ออกมาประณามการโจมตีดังกล่าวว่า มีเป้าหมายเพื่อสร้างความไม่มั่นคงภายในอิหร่าน พร้อมย้ำว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความมุ่งมั่น และความตั้งใจของอิหร่านในการเดินหน้าโครงการนิวเคลียร์อย่างสันติ   ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างอิหร่าน และชาติตะวันตกเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน และการจัดหาอาวุธของอิหร่านให้กับรัสเซียในการใช้ในสงครามในยูเครน   และเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในประเทศที่ดำเนินมานานหลายเดือน หลังหญิงชาวเคิร์ดวัย…

กองทัพเกาหลีใต้ยอมรับ โดรนเกาหลีเหนือล้ำเขตห้ามบินรอบทำเนียบ ปธน.

Loading

  กองทัพเกาหลีใต้ยอมรับว่า โดรนของเกาหลีเหนือรุกล้ำเขตห้ามบินรอบทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงโซล ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องประสิทธิภาพของระบบป้องกันทางอากาศของประเทศ   เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 ม.ค. 2566 กองทัพของประเทศเกาหลีใต้ออกมายอมรับว่า อากาศยานไร้พลขับ หรือ โดรน ของเกาหลีเหนือลำหนึ่ง บินเข้าสู่พื้นที่ทางตอนเหนือของเขตห้ามบินรัศมี 3.7 กม. รอบทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงโซล ในตอนที่มันรุกล้ำน่านฟ้าของประเทศเมื่อปลายเดือนก่อน   เจ้าหน้าที่กองทัพบอกกับสำนักข่าว ยอนฮัป ของเกาหลีใต้ว่า โดรนลำนี้บินรุกล้ำชายขอบทางตอนเหนือของเขตห้ามบินเป็นระยะเวลาสั้นๆ แต่ไม่ได้เข้าใกล้อาคารความมั่นคงสำคัญใด ๆ   ทั้งนี้ โดรนดังกล่าวเป็นหนึ่งในอากาศยานไร้คนขับของเกาหลีเหนือ 5 ลำ ที่บินรุกล้ำชายแดนเข้าสู่น่านฟ้าของเกาหลีใต้เมื่อ 26 ธ.ค. 2565 จนทำให้กองทัพเกาหลีใต้ต้องส่งเครื่องบินขับไล่และเฮลิคอปเตอร์จู่โจมออกปฏิบัติการ อย่างไรก็ตาม กองทัพไม่ได้ยิงทำลายโดรนฝูงนี้ และปล่อยให้มันบินในน่านฟ้าของประเทศนานหลายชั่วโมง   การรุกล้ำน่านฟ้าของโดรนฝูงนี้ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ระบบป้องกันทางอากาศของประเทศขึ้นในเกาหลีใต้ ในขณะที่เกาหลีเหนือแสดงท่าทีคุกคามมากขึ้นด้วยการเร่งพัฒนาเทคโนโลยีขีปนาวุธ และทดสอบยิงมิสไซล์มากครั้งที่สุดในประวัติศาสตร์เมื่อปีที่ผ่านมา   “การรุกล้ำเขตแดนของโดรนเปิดเผยให้เห็นความไม่พร้อมของเกาหลีใต้ในการตรวจจับ, ติดตาม และยิงทำลายโดรนขนาดเล็กเช่นนี้” ยอนฮัประบุ   เหตุการณ์ดังกล่าวยังทำให้ประธานาธิบดี ยูน ซุก-ยอล ขู่ระงับสนธิสัญญาทางทหารที่ทั้งสองฝ่ายทำไว้ในปี 2561 ซึ่งกำหนดให้หยุดพฤติกรรมเป็นปรปักษ์,…