ทำไมระบบ ‘ยืนยันตัวตน’ จึงกลายเป็นม้าโทรจันได้

Loading

แฮ็กเกอร์ใช้กลยุทธ์หลอกลวงผู้ใช้ให้มอบสิทธิอนุญาตการเข้าถึงระบบ ผู้บริหารองค์กรไม่ควรละเลยหรือมองข้าม แม้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยแบบเดิมอยู่แล้ว แต่ในบางกรณีก็ไม่สามารถป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่มีการพัฒนาอยู่อย่างไม่หยุดยั้งได้

สู้ภัยกลโกงการเงินด้วยระบบไบโอเมตริก หลอกระบบด้วยรูปภาพ-สวมหน้ากากไม่ได้!

Loading

  เปิดเหตุผลทำไมการเสริมการป้องกันกลโกงการเงิน จึงทำได้ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยแบบไบโอเมตริก? โดยหนึ่งในเหตุผลนั้น คือระบบไบโอเมตริกวันนี้เฉลียวฉลาดสุด ๆ และไม่สามารถ “หลอก” ด้วยรูปภาพ หรือการสวมหน้ากากใด ๆ   นายธัชพล โปษยานนท์ ผู้อำนวยการประจำประเทศไทยและอินโดจีน พาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ กล่าวว่า การใช้ระบบสแกนแบบไบโอเมตริกเพื่อป้องกันกลโกงต่าง ๆ ถือเป็นแนวทางการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงที่แนะนำสำหรับการปกป้องเงินของผู้บริโภค และแนวทางรักษาความปลอดภัยขั้นสูงที่ว่าก็จำเป็นต้องใช้ควบคู่ไปกับแนวคิดซีโรทรัสต์ (Zero Trust) ด้วยเช่นกัน   “ธนาคารต้องให้ความรู้แก่ลูกค้าในด้านมาตรการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์เบื้องต้น เช่น ไม่คลิกลิงก์หรือไฟล์แนบที่น่าสงสัย ไม่ป้อนข้อมูลส่วนตัวบนแพลตฟอร์มที่ไม่ปลอดภัย เป็นต้น”   ธัชพล โปษยานนท์ ผู้อำนวยการประจำประเทศไทยและอินโดจีน พาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์   พาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ ประเมินสถานการณ์วันนี้ว่ากลโกงของมิจฉาชีพมีการพัฒนาและปรับเปลี่ยนวิธีการอยู่ตลอดเวลา เช่น Smishing (การล่อลวงแบบฟิชชิงด้วย SMS) และ Vishing (การการล่อลวงแบบฟิชชิงด้วยการโทร.) เป็นสาเหตุให้ผู้คนจำนวนมากตกเป็นเหยื่อจนเกิดความสูญเสียนับไม่ถ้วนในปัจจุบัน และเงินในบัญชีของหลายคนถึงกับกลายเป็นศูนย์   เนื่องจากอาชญากรรมทางไซเบอร์มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง…

อื้ออึง! นิวยอร์กไทม์สแฉ “เครื่องสแกนไบโอเมตริก” เร่ขายบน eBay ราคาไม่ถึง $200 ซุกข้อมูลอ่อนไหวกองทัพสหรัฐฯ จำนวนมาก

Loading

  เอเจนซีส์ – หนังสือพิมพ์ชื่อดังสหรัฐฯ รายงานเครื่องสแกนไบโอเมตริกที่ขายผ่าน eBay ปรากฏพบข้อมูลสำคัญที่อ่อนไหวของกองทัพสหรัฐฯ จำนวนมากอยู่ในเมมโมรีการ์ด ทั้งชื่อบุคคล ภาพถ่าย ลายพิมพ์นิ้วมือ ส่วนใหญ่จากอิรักและอัฟกานิสถาน พบตอลิบานมีเครื่องแบบนี้เหมือนกัน   Engadget สื่อเชี่ยวชาญอุปกรณ์ไฮเทคของสหรัฐฯ รายงานเมื่อวานนี้ (27 ธ.ค) ว่า นักวิจัยชาวเยอรมัน ที่ได้ซื้อเครื่องสแกนไบโอเมตริก (Biometric) ซึ่งเป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลทางชีวภาพ เป็นต้นว่า ลายนิ้วมือ หรือม่านตา จากเว็บไซต์ eBay ชื่อดัง แต่ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าภายในเมมโมรีการ์ดมีข้อมูลสำคัญที่อ่อนไหวของกองทัพสหรัฐฯ ถูกเก็บอยู่ในนั้น อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานครั้งแรกในวันอังคาร (27)   ข้อมูลอ่อนไหวที่ถูกพบเป็นต้นว่า ชื่อบุคคล คำอธิบายเกี่ยวกับบุคคลนั้น ภาพถ่าย ลายพิมพ์นิ้วมือ ม่านตา ส่วนใหญ่มาจากอิรักและอัฟกานิสถาน และมีเป็นจำนวนมากทำงานให้กองทัพสหรัฐฯ ซึ่งอาจถูกใช้เพื่อเล่นงานได้หากว่าข้อมูลตกอยู่ในมือคนร้าย อ้างอิงจากรายงาน   กลุ่มนักวิจัยเยอรมนีชื่อ Chaos Computer Club ภายใต้การนำ มาตเทียส มาร์กซ์ (Matthias Marx)…

สนามบินดูไบเริ่มใช้วิธี ‘ตรวจม่านตา’ แทนหนังสือเดินทาง

Loading

    ที่สนามบินดูไบ ผู้โดยสารสามารถใช้ม่านตาเพื่อยืนยันตัวตนโดยไม่จำเป็นต้องแสดงเอกสารใดๆ ระบบดังกล่าวเปิดตัวขึ้นในขณะที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ยังคงต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด -19 ซึ่งรัฐบาลยกให้โครงการนี้เป็นเครื่องมือในการช่วยควบคุมการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ เพราะวิธีดังกล่าวช่วยให้ผู้โดยสารไม่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่น ระบบสแกนม่านตานี้ใช้ biometric หรือชีวมิติ ซึ่งได้รับการออกแบบขึ้นมาเพื่อรวบรวมข้อมูลทางชีวภาพที่มีลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคลเพื่อระบุตัวตน ทั้งนี้ระบบจดจำใบหน้าก็เป็นการใช้ไบโอเมตริกรูปแบบหนึ่ง ระบบดังกล่าวใช้วิธีการคล้ายกับที่ใช้ในเทคโนโลยีการพิมพ์ลายนิ้วมือ สนามบินดูไบใช้อุปกรณ์ในการสแกนม่านตาซึ่งเป็นส่วนที่มีสีของดวงตา โดยการให้ผู้โดยสารมองตรงเข้าไปในกล้องเพื่อให้สามารถรวบรวมข้อมูลทางชีวภาพได้ การใช้ระบบสแกนม่านตานั้นแพร่หลายมากขึ้นทั่วโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความแม่นยำของเทคโนโลยีจดจำใบหน้า ไบโอเมตริกของม่านตาถือว่าเป็นระบบที่เชื่อถือได้มากกว่าระบบที่สแกนใบหน้าของผู้คนจากระยะไกล ในสนามบินดูไบซึ่งเป็นสนามบินที่พลุกพล่านที่สุดในโลกสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ ผู้โดยสารจะเดินเข้าเครื่องสแกนม่านตาหลังจากเช็คอินแล้ว หลังจากที่มองเข้าไปในกล้องพวกเขาก็จะสามารถผ่านจุดตรวจหนังสือเดินทางได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที โดยที่ไม่ต้องพกบัตรเดินทางกระดาษหรือใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ใดๆ เจ้าหน้าที่ในดูไบกล่าวว่าการสแกนดังกล่าวนี้จะเชื่อมต่อข้อมูลม่านตาของบุคคลกับฐานข้อมูลการจดจำใบหน้าของ UAE ทำให้ผู้โดยสารไม่ต้องใช้เอกสารในการเดินทาง ระบบนี้เป็นความร่วมมือระหว่างบริษัทสายการบิน Emirates และสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของดูไบ เจ้าหน้าที่กล่าวอีกว่าระบบจะช่วยให้ผู้โดยสารผ่านกระบวนการอัตโนมัติตั้งแต่การเช็คอินไปจนถึงการขึ้นเครื่องบินได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย พลตรี Obaid Mehayer Bin Suroor รองอธิบดีกองอำนวยการทั่วไปด้านถิ่นที่อยู่และกิจการต่างประเทศของดูไบบอกกับ The Associated Press ว่าการสแกนม่านตานี้เป็นระบบอัจฉริยะที่ใช้เวลาเพียงห้าถึงหกวินาที อย่างไรก็ตาม ผู้คนยังหวั่นเกรงว่าเทคโนโลยีนี้จะทำให้สูญเสียความเป็นส่วนตัวเช่นเดียวกันกับระบบจดจำใบหน้า ทั้งนี้ UAE ได้เผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากนานาชาติเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวในการสอดส่องนักข่าวและนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ในคำชี้แจงสิทธิส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับระบบไบโอเมตริก Emirates ระบุไว้ว่าทางสายการบินเชื่อมโยงใบหน้าของผู้โดยสารกับข้อมูลระบุตัวบุคคลอื่นๆ รวมถึงหนังสือเดินทางและข้อมูลเที่ยวบิน นอกจากนี้ยังเสริมว่าข้อมูลดังกล่าวสามารถเก็บไว้ได้ตราบเท่าที่มีความจำเป็นตามสมควรสำหรับวัตถุประสงค์ในการรวบรวมข้อมูล นอกจากนี้ในเว็บไซต์ของ Emirates ยังระบุด้วยว่าข้อมูลไบโอเมตริกที่รวบรวมทั้งหมดจะถูกจัดเก็บไว้ในสารบบ…

โปแลนด์สั่งปรับโรงเรียนตามกฎหมาย GDPR จากการใช้ไบโอเมตริกตรวจสอบสิทธิ์ในการรับอาหารของนักเรียน

Loading

ภาพโดย MichaelGaida/Pixabay โรงเรียนในประเทศโปแลนด์ถูกทางการสั่งปรับเป็นเงิน 20,000 zloty (หน่วยเงินของโปแลนด์ คิดเป็นเงินไทยราว 166,000 บาท) ตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลยุโรปหรือ GDPR หลังจากทางโรงเรียนประมวลผลข้อมูลลายนิ้วมือของนักเรียนเพื่อตรวจสอบการจ่ายเงินค่าอาหารกลางวัน Jan Nowak ประธานของ UODO หน่วยงานด้านการปกป้องข้อมูลส่วนตัวในโปแลนด์ระบุว่าทางโรงเรียนได้ประมวลผลลายนิ้วมือของเด็กนับร้อยคนโดยไม่มีมาตรฐานตามกฎหมาย ซึ่งโรงเรียนมีทางเลือกมากมายในการจัดการอาหารของโรงเรียนที่ไม่จำเป็นต้องใช้ลายนิ้วมือ UODO ระบุว่า โรงเรียนแห่งนี้ใช้เครื่องอ่านไบโอเมตริกตรวจสอบนักเรียนที่ทางเข้าโรงอาหารมาตั้งแต่ปี 2015 เพื่อตรวจสอบสิทธิ์การรับอาหารของนักเรียน โดยถ้านักเรียนปฏิเสธที่จะใช้ไบโอเมตริกจะต้องไปต่อท้ายแถว และต้องรอจนกว่าเด็กที่ใช้ไบโอเมตริกจะเข้าโรงอาหารจนหมดก่อนเด็กที่ไม่ใช้จึงจะเข้าได้ ซึ่งประธาน UODO ให้ความเห็นว่ากฎเหล่านี้สร้างการปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมต่อเด็กและสร้างความแตกต่างอย่างไม่มีเหตุผล แม้ว่าโครงการไบโอเมตริกของโรงเรียนแห่งนี้จะมีคำยินยอมจากผู้ปกครองก็ตาม แต่ UODO พบว่าตามวัตถุประสงค์คือการระบุสิทธิ์ในการรับอาหารกลางวันของนักเรียน ก็ไม่ได้มีความจำเป็นต้องใช้ไบโอเมตริก รวมถึง GDPR ระบุไว้ชัดเจนตาม Retical 38 ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของเด็กต้องได้รับการปกป้องเป็นพิเศษเนื่องจากเด็กไม่สามารถตระหนักถึงความเสี่ยงและสิทธิในข้อมูลของตนเอง และไบโอเมตริกก็คือข้อมูลเฉพาะตัวตนที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ หากหลุดออกไปจะถือเป็นความเสี่ยงขั้นรุนแรงต่อเสรีภาพของบุคคลนั้น ๆ ————————————————— ที่มา : Blognone / 7 มีนาคม 2563 Link : https://www.blognone.com/node/115049